THAIมองผลการดำเนินงานปกติQ158พลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ2ปีแนะถือ

บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(30 เม.ย.) ว่าบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือTHAI คาดว่าผลการดำเนินงานปกติ ไตรรมาส 1/58 จะมีกำไรราว 2.3 พันล้านบาท พลิกเป็นบวกได้ครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยดีกว่าไตรมาส4/57ที่มีผลการดำเนินงานปกติขาดทุน 5.8 พันล้านบาท และ ไตรมาส1/57 ที่ขาดทุน 3.5 พันล้านบาท

โดยจำนวนผู้โดยสารใน ไตรรมาส 1/58 อยู่ที่ 5.04 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.4%เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 4.8%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากภาพรวมการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่ THAI มีการลด Capacity บางส่วนลง เป็นผลจากอัตรา cabin factor ใน ไตรรมาส 1/58 ดีขึ้นเป็น 75.7% จากไตรมาส4/57ที่ 71.1% และ ไตรมาส1/57 ที่ 70.1% นอกจากนั้น เราคาดว่าจะได้ผลบวกจากค่าใช้จ่ายต้นทุนน้ำมันเครื่องบินใน ไตรรมาส 1/58 ที่จะลดลงมากถึง 24%เทียบไตรมาสก่อนหน้าและ 26%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนแต่ยังน้อยกว่าการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันเครื่องบินในตลาดโลก เนื่องจาก THAI มีการทำ hedging น้ำมันล่วงหน้าไว้แล้วบางส่วน

สำหรับรายการพิเศษใน ไตรรมาส 1/58 คาดว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 9.6 พันล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโรค่อนข้างมาก ดังนั้น หากรวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจะทำให้ ไตรรมาส 1/58 จะมีกำไรสูงถึง 11.9 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม THAI อาจมีการบันทึกรายการด้อยค่าเครื่องบินเข้ามาได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรสุทธิใน ไตรรมาส 1/58 จะอยู่ในระดับที่โดดเด่น

อีกทั้งยังคงคาดว่าผลการดำเนินงานปกติในปี 2558 จะขาดทุนราว 5.7 พันล้านบาท แต่ดีขึ้นจากปีก่อนที่ผลการดำเนินงานปกติขาดทุนสูงถึง 21.9 พันล้านบาท จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเราประมาณการอัตรา cabin factor ในปี 2558 ที่ 75% ดีกว่าปี 2557 ที่ 69% และได้ผลบวกจากราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก โดยเราคาดว่าค่าใช้จ่ายน้ำมันในปี 2558 จะลดลงถึง 20%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2558 เป็นช่วงที่ THAI อยู่ในแผนปฏิรูปองค์กร คาดว่าอาจมีค่าใช้จ่ายเข้ามาค่อนข้างมาก ได้แก่ ค่าใช้จ่ายจากโครงการ Early Retirement ราว 5 พันล้านบาท รวมถึงการบันทึกด้อยค่าเครื่องบินที่อาจสูงถึงราว 10-15 พันล้านบาท แต่ THAI อาจจะมีกำไรพิเศษจากการปรับมูลค่าสินทรัพย์ หรือขายสินทรัพย์บางส่วน ชดเชยผลขาดทุนที่เกิดขึ้น

ปรับราคาเป้าหมายปี 2558 เป็น 14 บาท จากเดิมที่ 12.80 บาท โดยเรายังคงประเมินมูลค่าด้วย PBV ราว 1 เท่า จากการเพิ่มคาดการณ์กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ขณะที่เราปรับคาดการณ์รายการด้อยค่าเครื่องบินโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 15 พันล้านบาท จากเดิมที่ 10 พันล้านบาท โดยมีผลทำให้มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น ณ สิ้นปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 14 บาท ยังคงแนะนำ ถือ อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นยังซื้อเก็งกำไรได้โดยมีปัจจัยบวกจากผลการดำเนินงานใน ไตรรมาส 1/58 ที่คาดว่าจะมีกำไรโดดเด่น