อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลโมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดการลงทุนในตลาดหุ้นไทยก็จบลงที่เรื่องของอารมณ์มากกว่าเหตุผล แรงเทขายที่มีออกมาในคราวนี้แสดงถึงอาการตกใจสุดขีด รู้สึกวิตกกังวลไปหมดทุกอย่าง จึงพยายามเทขายหุ้นเพื่อหันไปถือเงินสดเป็นการทดแทน บวกกับข่าวสารในต่างประเทศมีแต่เรื่องร้ายๆ กองทุนใหญ่ถึงพากันเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก ภาพการลงทุนถึงดูหดหู่เป็นที่สุดไงล่ะค่ะ

*โดยเหตุผลที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกเช่นนั้นมาจากค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเรื่อยๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 33.52 บาท  ทั้งที่ช่วงกลางเดือน เม.ย. 58 ยืนอยู่ที่ระดับ 32.36 บาท เท่ากับเป็นการย้ำว่า เงินทุนกำลังไหลออกอย่างต่อเนื่อง และตัวเร่งที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวมาจาก กนง.ลดดอกเบี้ย เงินทุนในประเทศถึงไหลออกไปยังแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในทันทีพะยะค่ะ

*เมื่อภาพการลงทุนในด้านต่างๆ ยังขมุกขมัว ตัวแปรที่ชี้วัดเรื่องราวยังลอยไปลอยมา เท่ากับเป็นตัวเร่งให้นักลงทุนมีอาการเตลิดเปิดเปิงเข้าไปใหญ่“โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นดัชนีโดนเทขายอย่างหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น ก่อนจะมาปิดที่ 1,498.31จุด ลบไป 21.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่มองเป็น “โอกาส” หรือ “วิกฤติ” ก็ได้ทั้งนั้นนะค่ะ

*เหมือนกับเหตุการณ์ของหุ้นน้องใหม่ SLP ทุกอย่างทำมาดีทุกขั้นตอน แต่เหตุการณ์ภายนอกไม่เอื้อให้มีการไล่ราคา วานนี้ถึงมีแต่แรงเทขายออกมาเพียวๆ จากราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 3.18 บาท สุดท้ายอ่อนตัวลงมาปิดเสมอราคา IPO ที่ 2.16 บาท มันทำให้เห็นว่า ยุทธการขายหมูไปเรื่อยๆ ดีกว่านั่งอยู่เฉยๆ ยิ่งขายหมูมากเท่าไหร่ ยิ่งปั่นรอบกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น วันนี้จึงน่าลองเสี่ยงดูสักตั้ง เพราะหุ้นลงมาคราวนี้ มันเกิดจากอารมณ์ตระหนก ไม่ได้เกี่ยวกับพื้นฐานเลยเจ้าค่ะ

*ส่วนที่ไม่น่าลองเสี่ยงคงหนีไม่พ้น PMTA หุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าเทรดไปก่อนหน้านี้หนึ่งวัน“โมนิก้า” มองกิมมิคของหุ้นตัวนี้ไม่ออกจริงๆ และยังไม่เห็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้รายย่อยโกยกำไรได้ไม่อั้น แถมข่าวเม้าท์ที่ออกมาตามห้องค้ามีแต่คำแนะนำให้ขายออกไปก่อน มันหมายความว่า ไม่มีใครมองเรื่องปัจจัยพื้นฐาน แล้วหุ้นจะขึ้นอย่างแข็งแกร่งได้อย่างไร ล่าสุดหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 22 บาท ลบไป 3.75 บาท หรือลงไป 14.60% แล้วนะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ TASCO และ TIPCO หากมองตามรูปเกมที่เกิดขึ้นในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่า มีข่าวดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง และหุ้นก็ดีดตัวรับข่าวดังกล่าวอย่างเต็มที่ เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็ต้องเลิกรากันไปโดยปริยาย “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยวอรี่ที่เห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 12.80บาท ลบไป 2.70 บาท หรือลงไป 17.40% ส่วนรายหลังปิดที่ 7.30บาท ลบไป 1.35 บาท หรือลงไป  15.60% ในเมื่อเข้ามายุ่งเกี่ยวกับมันนี่เกมค่อนข้างเยอะ หุ้นก็สวิงสวายแบบนี้แหละตัวเอง

*อีกหนึ่งตัวที่หวือหวา(ในทางลบ)ไม่แพ้กันกลายเป็น NINE จู่ๆ โดนเทขายหุ้นอย่างหนักหน่วงแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องคิดหนักพอสมควร แต่พอมานึกอีกทีจะเห็นว่า เที่ยวนี้เขามองกันที่เรื่องอารมณ์มากกว่าเหตุผล  จึงไม่ต้องไปสืบเสาะข้อมูลที่เป็นรูปธรรมให้เสียเวลา ถ้าทุกคนเข้าใจเหตุผลจริงๆ แล้วจะปล่อยให้ราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 4.80บาท ลบไป 2.05 บาท หรือลงไป 30% เหรอค่ะ..อิอิอิ

*เช่นเดียวกับคำชี้แจงของ NMG ซึ่งผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นเฝ้ามองตาเป็นมัน สุดท้ายก็ไม่สามารถสรุปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าใจ “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางที่รักทุกคนเหมือนกันหมด จึงได้แต่ปลงสังเวชเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเต็มใจ ขนาดตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังตอกหน้ากลับไปว่า ชี้แจงให้ดีกว่านี้! เดี๊ยนขอโบกมือลาเรื่องนี้ดีกว่า เพราะวานนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ตลาดหุ้นไทยมันวัดที่เรื่อง “ตัวกู พวกกู”  แม้แต่คนของทางการยังทำตัวเป็นสนต้องลม แล้วเดี๊ยนจะดันทุรังทำเรื่องนี้ไปเพื่ออะไรมิทราบ?

*ตบท้ายกันที่ TVT หุ้นน้องใหม่รายที่ 3 ประจำสัปดาห์นี้กันสักหน่อย เพราะเป็นหุ้นที่น่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่งในเวลานี้ บวกกับราคาไอพีโอที่ 2 บาท มีส่วนลดให้กับผู้จองซื้อประมาณ 30% เมื่อนำมาเทียบกับหุ้นกลุ่มบันเทิงเริงรำมีค่า P/E อยู่ในระดับ 40 เท่า “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่จองซื้ออย่างแน่นอน ไม่เชื่อลองดูรายชื่อคนที่ออกมาการันตีคุณภาพซิค่ะ

*คนแรกนำทัพโดย “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” หัวเรือใหญ่ บล. ฟินันเซีย  มองแนวโน้มหุ้นเปิดเทรดวันนี้น่าจะออกมาในทิศทางที่ดี ขณะที่ “สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน  ยืนยันปัจจัยพื้นฐานมีความแข็งแกร่ง ผลประกอบการมีความโดดเด่น และการเติบโตในอนาคตมีความสดใส ส่วน “นางภัทรภร วรรณภิญโญ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TVT เม้าท์ว่า นักลงทุนจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในอนาคต..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะค่ะ