BDMS แข็งแกร่ง

มีการวิเคราะห์กันว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 58 ของ BDMS จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.15 พันล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ทั้งจากโรงพยาบาลและธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามจำนวนโรงพยาบาลในเครือที่เพิ่มขึ้น


มีการวิเคราะห์กันว่าแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 58 ของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)หรือ BDMS จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.15 พันล้านบาท โดยบริษัทมีรายได้ทั้งจากโรงพยาบาลและธุรกิจที่ไม่ใช่โรงพยาบาลจะเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ตามจำนวนโรงพยาบาลในเครือที่เพิ่มขึ้น

เนื่องจากคาดว่าจำนวนผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่คาดว่าจำนวนผู้ป่วยชาวไทยจะเพิ่มขึ้น 5%เมื่อเทียบกับปีก่อนโดยมีสาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์ทางการเมืองของไทยที่ดีขึ้น โดยการเติบโตในไตรมาสนี้มาจากผู้ป่วยชาว UAE โอมาน และจีน เป็นหลัก อีกทั้งบริษัทจะยังสามารถรักษาระดับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SGA/Sales) ไว้ได้เท่าเดิม ซึ่งจะช่วยหนุนความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสนี้

หากมองไปข้างหน้ากระแสรายได้ของบริษัทจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนถึงการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในรอบสองสามปีที่ผ่านมา โดยในปัจจุบัน BDMS มีโรงพยาบาลในเครือ 43 แห่ง โดยมีจำนวนเตียงผู้ป่วยรวม 7,174 เตียง และผู้บริหารยังคงเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลในเครือเป็น 50 แห่งภายในปี 2559 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างการเติบโตของรายได้จากโรงพยาบาลในระยะยาว

ขณะที่ผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 56,974.57 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 51,406.52 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายได้ค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและอาหารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 7,393.52 ล้านบาท หรือ 0.48 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,261.46 ล้านบาท หรือ 0.40 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุนของนักลงทุน พบว่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังดูดี เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียน 12,679.26 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียน 12,878.74 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 0.99 เท่า ถือว่า สภาพคล่องทางการเงินของบริษัทยังดูดีอยู่ พร้อมกับบริษัทยังมีกำไรที่แข็งแกร่ง

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 44,273.60 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีมากถึง 48,954.26  ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.91 เท่า แสดงว่า ปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรมารบกวนในอนาคต

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายที่ 24.30 บาท

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 2,960,930,240 หุ้น 19.11%

2.นายวิชัย ทองแตง 1,039,916,550 หุ้น 6.71%

3.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 1,008,418,690 หุ้น 6.51%

4.บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) 948,283,830 หุ้น 6.12%

5.น.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ 419,705,980 หุ้น 2.71%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นายอรุณ เผ่าสวัสดิ์ ประธานกรรมการ 2.นายจุลเดช ยศสุนทรากุล รองประธานกรรมการ 3.นายวิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการ 4.นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ 5.น.ส.ปรมาภรณ์  ปราสาททองโอสถ กรรมการ

Back to top button