หุ้นเด่น-หุ้นดับSET50 เมษายน

ภาวะตลาดหุ้นในเดือนเมษายนมีความผันผวน ข่าวหุ้นธุรกิจ ทำการรวบรวมข้อมูลหุ้นดาวเด่นดาวดับในตลาด SET50 เพื่อประมวลภาพกว้างๆ ให้นักลงทุนรู้ว่า หุ้นตัวไหนได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ และหุ้นตัวไหนที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่สบายใจ จนนำไปสู่การเทขายอย่างหนัก


ภาวะตลาดหุ้นในเดือนเมษายนมีความผันผวน ภายใต้น้ำหนักจากประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะความกังวลต่อถ้อยแถลงของเฟด ว่าจะมีการส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดหรือไม่ เพราะอาจจะมีผลต่อ Fund Flow ไหลออก หากส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ หลักยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น นี่อาจทำให้ภาวะของตลาดยังไม่สู้ดีนัก แม้ช่วงกลางเดือน SET จะปรับตัวขึ้นไปเหนือแนวต้าน 1,550 จุด แต่หลังจากนั้น SET กลับทรุดลงเรื่อยๆ มาอยู่บริเวณ 1,520 จุดตามสภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจนทั้งต่างประเทศและในประเทศ

ผลการขึ้นหรือลง มีความหมายหลายนัย เพราะอาจจะมีสาเหตุจากปัจจัยที่ต่างกันไปในหุ้นแต่ละตัว แม้ว่าโดยรวมของตลาดอาจส่งผลให้นักลงทุนยังมีความกังวล จึงชะลอการลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกลุ่ม SET50 ที่ส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนหุ้นรายตัวมากกว่า อย่างหุ้นที่มีการปรับตัวลงเยอะ ซัพพอร์ตกับข่าวที่เข้ามาสนับสนุน

 

“ข่าวหุ้นธุรกิจ” ทำการรวบรวมข้อมูลหุ้นดาวเด่นดาวดับในตลาด SET50 เพื่อประมวลภาพกว้างๆ ให้นักลงทุนรู้ว่า หุ้นตัวไหนได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ และหุ้นตัวไหนที่ทำให้นักลงทุนรู้สึกไม่สบายใจ จนนำไปสู่การเทขายอย่างหนัก โดยข้อมูลที่ได้ตอนนี้คือ มีหุ้นปรับตัวขึ้น 21 ตัว ไม่มีการเปลี่ยนแปลง 2 ตัว และปรับตัวลง 27 ตัว

ด้วยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งมีอยู่ 21 ตัวก็จริง แต่มี 5 ตัวแรกที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด โดยราคาหุ้นปรับตัวเกิน 10% ตกเป็นของกลุ่มพลังงานเชื้อเพลิงทั้งสิน อาทิ PTTGC, TOP, DELTA, PTT และ BCP ผลดังกล่าวได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และต่อจากนี้ไปราคาน้ำมันยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม ส่วนนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานยังคงปรับตัวสูงขึ้น   

เรื่องดังกล่าวอย่าเพิ่งปักใจเชื่อ เพราะสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนอาจทำให้ทุกอย่างพลิกล็อก แม้ว่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนของราคาน้ำมันโลกก็ตาม

ในทางกลับกันเมื่อมีหุ้นปรับตัวขึ้นก็ย่อมมีหุ้นปรับตัวลง ซึ่งมีมากกว่าครึ่งในตลาด SET50 โดยมีหุ้นปรับตัวลง 27 ตัว แต่มีหุ้นโดนหนักสุดที่ลงไปกว่า 10% อาทิ VGI, TMB, KTB, HMPRO และ SCB จากส่วนใหญ่หุ้นที่โดนทิ้งหนักคงหนีไม่พ้นกลุ่มแบงก์ หลังจากผลการดำเนินงานออกมาลดลงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้โดยส่วนใหญ่ และอาจจะมีแรงกดดันต่อจากความกังวลเรื่องการตั้งสำรองหนี้หลังจากที่ NPL อาจจะปรับตัวขึ้น  

ยามสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ผลที่ตามมาคือการทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงตามที่เห็น อย่างไรก็ตาม ด้วยเป็นหุ้นบลูชิพ ตามทฤษฎีแล้วราคาหุ้นมักฟื้นตัวเร็ว ดังนั้น ถือเป็นโอกาสดีแก่นักลงทุนที่จะเข้าซื้อของถูก

ต่อจากนี้ไปราคาหุ้นบลูชิพแต่ละตัวจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางไหน อาจไม่มีใครทราบ เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน แต่เชื่อว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในหุ้นตลาด SET50 อย่างต่อเนื่อง จากพื้นฐานที่แข็งแกร่งของตัวบริษัทเอง

 

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่ม SET50 ในเดือนเมษายน 2558

table20150509

Back to top button