ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์พุ่ง 267 จุด รับตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ค.) หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พ.ค.) หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับการคาดการณ์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,191.11 จุด พุ่งขึ้น 267.05 จุด หรือ +1.49%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,003.55 จุด เพิ่มขึ้น 58.01 จุด หรือ +1.17% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,116.10 จุด เพิ่มขึ้น 28.10 จุด หรือ +1.35%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นขานรับรายงานที่ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. จากระดับ 85,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.4%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนที่พุ่งขึ้นกว่า 2% หลังพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งสูงถึง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และส่งผลให้นายคาเมรอนสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 จากพรรคอนุรักษ์นิยมที่สามารถดำรงตำแหน่งติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากนางมาร์กาเร็ต แธทเชอร์

หุ้นกลุ่มต่างๆ ปรับตัวขึ้นเป็นวงกว้าง รับตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นโฮม ดีโปท์ และหุ้นเวิร์ลพูล ต่างก็ปรับขึ้น 1.7% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ ส่วนหุ้นวีซา ทะยานขึ้น 4.3% หลังจากมีรายงานว่าวีซากำลังเจรจาซื้อบริษัทที่เคยอยู่ในเครือของวีซาในยุโรป คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มสายการบินทะยานขึ้น โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างก็ปรับขึ้น 1.7% ส่วนหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 2.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ปีนี้

Back to top button