ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
อีกนิดเดียว SET จะต้องเผชิญสัญญาณลบจาก MACD หากหลุดแนวรับ 1,525 จุด กลยุทธ์เลือก Selective Buy หุ้นที่จะ Outperform ตลาดช่วงนี้ คือหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการงวด 1Q58 โดดเด่น VNG, TASCO, RCL และหุ้นผลประกอบการพลิกฟื้น กลุ่มพลังงาน PTT, PTTEP
มุมมองและการวิเคราะห์
– SET Index ช่วงเช้าปรับลดลง 1% ตาม Sentiment ตลาดหุ้นในภูมิภาค ขณะที่ SET50 Index ปรับลงลด 1.15% แสดงให้เห็นว่าหุ้นในกลุ่ม Big Cap วันนี้ลงแรงกว่าหุ้นในกลุ่ม Mid และ Small Cap โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารฯ เป็นกลุ่มที่ดึงดัชนีลงมาถึง2.68 จุด เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่ม ICT ที่ดึงให้ดัชนีลงมารวมกัน 4.4 จุด การปรับลดลงของกลุ่มธนาคารฯ นอกจากจะเป็นแรงขาย Sell on Fact ภายหลังการรายงานผลประกอบการแล้ว ยังมีเรื่องความกังวลต่อตัวเลข NPL ที่สูงขึ้น ความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปี 2558 ซึ่งบางส่วนถูกสะท้อนออกมาผ่านการปรับลดประมาณการณ์กำไรธนาคารฯหลายๆแห่ง ของ Consensus เหล่านี้ล้วนเป็นเหตุกดดันให้กลุ่ม ธ.พ. กดดันดัชนีต่อเนื่อง ซึ่งถัดจากนี้ต้องติดตามการรายงานผลประกอบการของภาค Real Sector อย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี วัสดุฯ สื่อสาร และอื่นๆ ซึ่งเริ่มมีการทยอยประกาศกันออกมาแล้ว โดยรวมยังคาดว่า กำไรสุทธิตลาดงวด 1Q58 ยังมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นแตะระดับ 2 แสนล้านบาท
– ฝ่ายวิจัยฯได้ทำการประมาณการหุ้นผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่ม Real Sector ซึ่งจะทยอยประกาศงบใน 1Q58 จากนี้ โดยสามารถสรุป หุ้นกลุ่มที่มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการ เริ่มจาก TOP (FV@B54) คาดการณ์ผลกำไรงวด 1Q58 พลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิกว่า 4.3 พันล้านบาท ซึ่งทำจุดสูงสุดของปี หลังจากขาดทุนในงวด 4Q57 กว่า 6.5 พันล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนหลักมาจากสต็อกน้ำมันรวม LCM ที่พลิกกลับมาเป็นกำไร และค่าการกลั่นปรับขึ้นตามผลของฤดูกาล ทำให้กำไรสุทธิงวด 1Q58 จะสูงถึง 61% ของประมาณการเดิมทำให้มีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2558 ขึ้น 44% ส่วน Fair Value ปรับเพิ่มจากเดิม 12.5% แต่จากราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนพื้นฐานไปแล้ว จึงแนะนำเพียง ถือ รับเงินปันผล เท่านั้น ถัดมาคือ AP ([email protected]) คาดการณ์ผลกำไรงวด 1Q58 เติบโตถึง 92% yoy (แต่ลดลง 18% qoq) จากคาดการณ์บันทึกรายได้การขายอสังหาฯ ที่ 5.05 พันล้านบาท
โดยส่วนใหญ่มาจากโครงการแนวราบถึง 90% สำหรับแนวโน้ม กำไรช่วงที่เหลือของปีคาดเติบโตมากขึ้นตาม Presale แนวราบ และจากคอนโดฯ ที่มีกำหนดสร้างเสร็จจะเริ่มโอนรวม 4 โครงการ และมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการปี 2558 เพื่อสะท้อนฐานกำไรที่คาดเติบโตต่อเนื่องเป็นขั้นบันได สำหรับหุ้นที่มีโอกาสปรับลดประมาณการลง คือ STEC ([email protected]) คาดการณ์กำไรสุทธิงวด 1Q58 ลดลง 18%QoQ และลดลง 7%YoY เนื่องจากงวด 1Q58 STEC เพิ่งได้รับงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า SPP และยังอยู่ในช่วงของการเตรียมงาน จึงทำให้จังหวะการรับรู้รายได้ขาดช่วงไป ส่วนการเปิดประมูลโครงการทั้งภาครัฐและเอกชนล่าช้ากว่ากำหนด จึงต้องรองานประมูลที่น่าจะออกมาครึ่งปีหลัง ขณะที่ Gross Margin มีแนวโน้มลดลง จากการรับรู้รายได้งานที่มี margin ต่ำ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต้องปรับประมาณการกำไรลง ฝ่ายวิจัยจึงแนะนำเพียง ถือ
– ภาพเทคนิคของ SET หลุดแนวรับสำคัญทั้ง 1,543 และ 1,533 จุด ทำให้มีความเสี่ยงที่ดัชนีจะลงต่อตาม Momentum ลงหลุด Low สำคัญ โดยมีแนวรับที่ 1,525 จุด หากลงต่ำกว่าจะเกิดสัญญาณหายนะ MACD ตัดเส้น Signal Line ลงมา ทำให้ดัชนีอาจไหลลงลากเลือด โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,508 จุด
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic
– หุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการโดดเด่น VNG, RCL
– หุ้นผลประกอบการฟื้นตัว มองพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC
– หุ้น PE ต่ำ และมี Story เด่น STPI, BJCHI
– Portfolio Update : ASK, SPALI, STPI, BJCHI, PTTEP