ผลงานดี..มีชัยไปกว่าครึ่งโมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนการลงทุนในแต่ละวันจะจับต้องอะไรไม่ได้เลย บางวันหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง บางวันหุ้นรูดมหาราชอย่างรวดเร็ว เผลอๆ บางวันก็มีอาการซึมกระทือเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่ชอบโอนอ่อนไปตามกระแสที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ขืนทำตัวอย่างที่เดี๊ยนเกริ่นนำไว้ข้างต้น เทรดไปเทรดมา อาจกระเป๋าฉีก แบบไม่รู้ตัว จึงต้องตั้งหลักให้ดีก่อนเล่นนะจ๊ะ
*ดูเหมือนการลงทุนในแต่ละวันจะจับต้องอะไรไม่ได้เลย บางวันหุ้นทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง บางวันหุ้นรูดมหาราชอย่างรวดเร็ว เผลอๆ บางวันก็มีอาการซึมกระทือเสียอย่างนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่ชอบโอนอ่อนไปตามกระแสที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ขืนทำตัวอย่างที่เดี๊ยนเกริ่นนำไว้ข้างต้น เทรดไปเทรดมา อาจกระเป๋าฉีก แบบไม่รู้ตัว จึงต้องตั้งหลักให้ดีก่อนเล่นนะจ๊ะ
*บวกกับตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงเล่นข่าวผลประกอบการ หุ้นทุกตัวกลับมายืนอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากขึ้น จึงมีแรงซื้อปะปนมากับแรงเทขายตลอดทั้งวัน รวมทั้งโดนถ่วงจากการขึ้นเครื่องหมาย XD หรือแม้กระทั่งเรื่อง sell on fact ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ดัชนียังขยับเขยื้อนไปได้ไกล “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยรู้สึกดีใจที่เห็นดัชนียังพยายามจะขึ้น เพราะแรงซื้อที่เข้ามาเป็นแรงซื้อเทียมนะซี
*นอกจากนี้เมื่อดูจากตำราหุ้นที่ร่ำเรียนมาพบว่า ดัชนีขึ้นแบบไม่มีวอลุ่ม มีโอกาสเกิดโรคเข่าทรุดสูง“โมนิก้า” ถึงกล้าเดาว่า ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,495.95จุด บวกไป 10.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.55 หมื่นล้านบาท ในทางเทคนิคเขาเรียกเหตุการณ์ลักษณะนี้ว่า “รีบาวด์” ส่วนจะเป็นลักษณะ รีบาวด์เพื่อไปต่อ หรือ รีบาวด์เพื่อลงต่อ อันนี้ต้องไปลุ้นกันอีกทีในวันนี้นะจะบอกให้
*ส่วนที่ไม่ต้องลุ้นจนน้ำลายเหนียวคอ น่าจะเป็นหุ้นที่มีผลงานในไตรมาส 1 สุดแจ่ม ตัวเลขกำไรเติบโตเกิน 20% ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว “โมนิก้า” ถือเป็นทีเด็ดสำหรับการเล่นรอบนี้อย่างแท้จริงๆ และอยากให้นักเล่นโฟกัสไปยังหุ้นตัวดังกล่าวมากขึ้น เพราะเป็นหุ้นที่ทำให้คนเล่นรู้สึกอุ่นใจเมื่อภาวะการลงทุนไม่เป็นใจ เนื่องจากท้ายสุดหุ้นจะเด้งกลับขึ้นมาที่เดิมเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ CPALL ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 เติบโตถึง 26% ราคาหุ้นถึงปรับตัวขึ้นสวนภาวะตลาดหุ้นตลอดช่วง 1 เดือนครึ่ง ล่าสุดหุ้นขึ้นมาปิดที่ 44.50บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.60 พันล้านบาท เมื่อเดี๊ยนนำยอดสูงสุด 44 บาทที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 58 มาเปรียบเทียบ และนำจุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้แถว 38 บาทมาบรรยายประกอบ เดี๊ยนเม้าท์ได้ทันทีว่า น่าจะมีหุ้นแบบนี้ติดพอร์ตไว้บ้างนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CPF วันนี้แสดงกำลังภายในให้ทุกคนเห็นว่า ฐานแนวรับแถว 22-21 บาทเป็นจุดทยอยรับของชั้นยอด แถมรอบก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน คุณเธอก็เด้งจากตรงจุดนี้ขึ้นไปแถว 24 บาท แล้วม้วนตัวกลับลงมาอยู่ที่เดิม ล่าสุดเด้งขึ้นมาปิดที่ 23.20บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 6.50% มันน่าจะเป็นพล็อตเรื่องเดิมๆ เหมือนที่ผ่านมาผ่าน แต่รอบนี้มีแรงหนุน MSCI หุ้นอาจไปไกลกว่าที่คิดก็ได้เจ้าค่ะ
*ส่วนที่ไปไกลแน่ๆ แต่ผู้คนไม่ค่อยเชื่อ น่าจะเป็นในรายของ JAS วานนี้เรียกความเชื่อมั่นด้วยการทะยานขึ้นมาปิดที่ 5.35บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยวอลุ่มที่แน่นเอี้ยด พร้อมกับมีการให้ราคาเป้าหมาย 9 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่พวกกองทุนรู้อยู่เต็มอก แต่ที่ผ่านมาต้องระบายขายหุ้นทำกำไรออกไปบ้างส่วน เพื่อทำรอบได้มากขึ้นเท่านั้นเองเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ BANPU ก่อนหน้านี้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับความคาดหวังจะกลับมาทำกำไรอย่างแข็งแกร่ง แต่ทันทีที่ตัวเลขกำไรแสดงแค่ 70 ล้านบาท ทั้งที่ปีก่อนทำได้มากถึง 1.80 พันล้านบาท แรงเทขายถึงได้พรั่งพรูออกมาสักระยะหนึ่ง ล่าสุดเห็นหุ้นทิ้งตัวลงมายืนอยู่ที่ 27 บาท ลบไป 1.25บาท หรือลงไป 4.40% มันทำให้เดี๊ยนรู้ว่า ควรเลี่ยงหุ้นตัวนี้เป็นการชั่วคราวนะคะ
*สำหรับกรณีของ GL อาจเป็นผลมาจากหุ้นปรับตัวขึ้นมากเกินไป และหลายคนคาดหวังถึงกำไรที่สูงกว่านี้ เมื่อทำไม่ได้ตามที่เป็นข่าวครึกโครมก่อนหน้านี้ จึงทิ้งหุ้นลงมาเรื่อยๆ จนดิ่งลงมาปิดที่ 9.15บาท ลบไป 1.35บาท หรือลงไป 12.90% “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่พอคาดเดาได้! คิดในแง่ดีสุดปีนี้ทำกำไรได้ราว 400 ล้านบาท หรือ 0.40 บาทต่อหุ้น คิดบนพื้นฐาน P/E ที่ระดับ 20 เท่า ราคาเป้าหมายได้แค่ 8 บาท หุ้นควรจะขึ้นหรือลงล่ะจ๊ะ
*ถ้ามองไม่ออก “โมนิก้า” ขอให้ย้อนกลับมาดู TRC สุดยอดหุ้นสตอรี่สวย กำไรเติบโตเท่าตัว เมื่อผ่านพ้นช่วงขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นก็เด้งกลับอย่างร้อนแรง 1.97บาท บวกไป 0.25บาท หรือขึ้นไป 14.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้หุ้นทรุดลงไปยืนแถว 1.88 บาท วันนี้กลับขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง ถ้าไม่ใช่เรื่องผลประกอบการเป็นตัวหนุน แล้วจะมาจากเรื่องอะไรเหรอพ่อคุณ!
*คิดดูแล้วกัน! ขนาดหุ้น WIIK ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เจ๊เหมี่ยว” อันนี้ก็หันมาเล่นตรีม “เทิร์นอะราวด์” ปีนี้ฟันธงได้เห็นกำไรทุกไตรมาส บวกกับธุรกิจมีกิมมิคใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสัน พวกนกรู้ถึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 3.78บาท บวกไป 0.68บาท หรือขึ้นไป 22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 130 ล้านบาท แสดงว่า วันนี้มีโอกาสได้เห็นหุ้นไปต่ออีกวันเจ้าค่ะ
*ป.ล. ยังมีหุ้นพื้นฐานดีหลายตัวที่ “โมนิก้า” ยังไม่ได้เม้าท์ถึง ถ้าอยากรู้มีตัวไหนบ้างทีเด็ดๆ ลองเข้าไปดูใน www.kaohoon.com ก็แล้วกันเจ้าค่ะ