GL รายงานกำไร Q1/58 ทุบสถิติมั่นใจปีนี้ธุรกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
GL รายงานกำไร Q1/58 ทุบสถิติ ผู้บริหารมั่นใจปีนี้ผลประกอบการดีขึ้นต่อจากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกัมพูชาถือว่าพึ่งจะเริ่มประสบความสำเร็จและยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวสร้างยอดขายและกำไรเพิ่มพูนได้อีกมากในอนาคต
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ กล่าวชี้แจงว่า กำไรในไตรมาส 1/58 นับเป็นผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีที่สุดและแสดงความมั่นใจว่าผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ จะปรับตัวดีขึ้นต่อจากนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกัมพูชาถือว่าพึ่งจะเริ่มประสบความสำเร็จและยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวสร้างยอดขายและกำไรเพิ่มพูนได้อีกมากในอนาคต
สำหรับงบการเงินรวมของ GL ซึ่งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โชว์กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้ 110.24 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตถึง 924% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 ที่มีกำไรสุทธิ 10.76 ล้านบาท โดยยอดกำไรสุทธิ 110.24 ล้านบาทนี้ ประกอบด้วย ประมาณ 39 ล้านบาท ซึ่งเป็นกำไรจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศหรือเพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศในไตรมาส 4/57 ที่ผ่านมา โดยกำไรจากธุรกิจในต่างประเทศส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการในประเทศกัมพูชา
นายมิทซึจิ กล่าวว่า ความสำเร็จของธุรกิจในกัมพูชานั้น สอดคล้องแผนการขยายธุรกิจของบริษัทฯ แม่ในประเทศไทยเข้าสู่กลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดเกิดใหม่มีศักยภาพเติบโตสูงมากและให้อัตราผลตอบแทนจากการดำเนินธุรกิจที่ดี
สำหรับธุรกิจในกัมพูชานั้น นอกเหนือจากการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถจักรยานยนต์แล้ว GL ยังได้ขยายธุรกิจด้านนาโนไฟแนนซ์สำหรับลูกค้ารายย่อยที่กระจายไปทั่วภูมิภาคต่างๆ ของกัมพูชา ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังเตรียมพร้อมรุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ในประเทศ สปป.ลาว หลังจากได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งชาติของ สปป.ลาว โดยมีกำหนดเปิดสำนักงานใหม่ที่นครเวียงจันทน์ในวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อรุกขยายธุรกิจใน สปป.ลาวอย่างเต็มรูปแบบ
นายมิทซึจิ กล่าวชี้แจงว่า ถึงแม้ว่า สปป.ลาว จะเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กและมีจำนวนประชากรไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน แต่ตลาด สปป.ลาว มีศักยภาพสูง เนื่องจากบริษัทฯ จะให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์ในพื้นที่ชนบททั่วประเทศ ซึ่งบริการของธนาคารพาณิชย์ครอบคลุมไม่ทั่วถึง โดย GL จะใช้ระบบการบริหารจัดการที่พัฒนาขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบจากประเทศกัมพูชาเข้ามาใช้ในประเทศ สปป.ลาว และคาดว่าจะใช้เวลาเพียง 6-7 เดือนก่อนที่ธุรกิจจะถึงจุดคุ้มทุน
นอกเหนือจากตัวเลขกำไรสุทธิจากผลประกอบการในกัมพูชา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญแล้ว ผลประกอบการโดยรวมในประเทศไทยก็อยู่ในเกณฑ์ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งสำรองสำหรับหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญปรับลดลงไปค่อนข้างมากจาก 120.98 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีที่แล้วเหลือเพียง 82.33 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปีนี้ ซึ่งสะท้อนถึงสภาพตลาดโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้นสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ขณะที่คุณภาพของพอร์ตสินเชื่อในกัมพูชานั้นยังอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่องและมีการตั้งสำรองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งนี้ รายได้จากดอกเบี้ยเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 36.64% จาก 353.90 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว มาเป็น 483.23 ล้านบาทในไตรมาส 1 ของปีนี้