คลัง เผยยอดหนี้สาธารณะสิ้นมี.ค.58 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 43.33% ของ GDP
คลัง เผยยอดหนี้สาธารณะสิ้นมี.ค.58 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 43.33% ของ GDP
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มีนาคม 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 5,730,519.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.33 ของ GDP เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 10,093.66 ล้านบาท
สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP มีการเปลี่ยนแปลงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2558 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ปรับปรุงวิธีการคำนวณ GDP และปรับประมาณการในปี 2558 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หนี้ของรัฐบาลเพิ่มขึ้น 23,846.11 ล้านบาท ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดจาก
– การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 16,102.76 ล้านบาท
– การเพิ่มขึ้นของตั๋วเงินคลังเพื่อบริหารดุลเงินสด จำนวน 5,000 ล้านบาท
– การกู้เงินเพื่อการลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศและต่างประเทศ จำนวน 2,398.08 ล้านบาท ประกอบด้วย การให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและการรถไฟแห่งประเทศไทย 1,956.08 ล้านบาท สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง รถไฟสายสีแดงและโครงการปรับปรุงทางรถไฟที่ไม่ปลอดภัย และการเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อใช้ในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (DPL) 442 ล้านบาท
– การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ จำนวน 200 ล้านบาท
– การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลล่วงหน้าที่จะครบกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.58 จำนวน 9,014 ล้านบาท
– การชำระหนี้ที่กู้มาเพื่อชดเชยความเสียหายให้แก่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ จำนวน 5,000 ล้านบาท
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินมียอดหนี้คงค้างลดลง 9,195.48 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมี.ค.58 มีการเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต่างประเทศเพื่อลงทุนในโครงการสำคัญๆ ได้แก่ โครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลักของการประปานครหลวง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) มียอดหนี้คงค้างลดลง 3,334.90 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้เงินต้นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
หนี้หน่วยงานของรัฐ มียอดหนี้คงค้างลดลง 1,222.07 ล้านบาท เนื่องจากการชำระหนี้เงินต้นของกองทุนอ้อยและน้ำตาล สำนักงานธนานุเคราะห์ และมหาวิทยาลัยพะเยา
การที่หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) และหนี้หน่วยงานของรัฐมียอดหนี้คงค้างลดลง เนื่องจากมีการชำระคืนมากกว่าการเบิกจ่ายเงินกู้ และจากผลของการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ หนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2558 เท่ากับ 5,730,519.23 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ในประเทศ 5,388,803.31 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 94.04 และหนี้ต่างประเทศ 341,715.92 ล้านบาท (ประมาณ 10,385.37 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือเท่ากับร้อยละ 5.96 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และ หากเปรียบเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ จำนวน 157,370.68 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว (ข้อมูล ณ 27 มี.ค.58) หนี้ต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 6.60 ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพและความมั่นคงในด้านการเงินของประเทศ โดยหนี้สาธารณะแบ่งออกเป็นหนี้ระยะยาวถึง 5,570,643.93 ล้านบาท หรือร้อยละ 97.21 และมีหนี้ระยะสั้นเพียง 159,875.30 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.79