จัด 15 บจ.เด็ด สอยหุ้นมีเอี่ยวภาครัฐฯเร่งลงทุนกลุ่มแบงก์กดดัน SET หลังธ.ใหญ่ประกาศลดดบ.
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยระยะสั้นมีแนวโน้มปรับฐานลง โดยมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลังแบงก์ใหญ่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มดังกล่าวยังมีแนวโน้ม Underperform ตลาดต่อไป การลงทุนเลือกกลุ่มที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ, การที่ภาครัฐฯเร่งการลงทุน และปันผลสูง
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.04 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.49 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยในเดือนมิ.ย.นั้น อาจจะไม่แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนดังกล่าว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยระยะสั้นมีแนวโน้มปรับฐานลง โดยมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์หลังแบงก์ใหญ่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มดังกล่าวยังมีแนวโน้ม Underperform ตลาดต่อไป การลงทุนเลือกกลุ่มที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำ, การที่ภาครัฐฯเร่งการลงทุน และปันผลสูง หุ้นเด่นเลือก ITD-TASCO-TPIPL-WHA-BMCL-SAWAD-INTUCH-CK-SEAFCO-RCL-VNG-IRPC-AOT-THANI และ RWI
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ค.) คงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 38 หลัง SET INDEX ไม่ผ่านแนว 1,530 จุดวานนี้ อีกทั้ง CPALL และ MAKRO ที่ปิดบวกเด่นวานนี้คำนวณเป็น SET INDEX ได้ 3.01 จุด ประเมินว่า SET INDEX ช่วงสั้นจะเกิดการแกว่งปรับฐานลงสู่แนว 1,510 จุด +/- กดดันด้วยกลุ่มธนาคาร หลัง KBANK ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เป็นรายแรก และตามมาด้วย SCB ในช่วงค่ำวานนี้ ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารมีแนวโน้มแคบลงต่อเนื่องจากไตรมาส 1/58 ทำให้ภาพรวมของกลุ่มธนาคาร จะเผชิญกับการขายเพื่อลดน้ำหนักในระลอก แต่เชื่อว่าจะเป็นไปอย่างจำกัด เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับปาฐกถา “นโยบายคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” วานนี้ มีความเห็นเป็นบวก ต่อเป้าหมายการผลักดันการลงทุนทั้ง บก-น้ำ-อากาศ อย่างครบวงจร ล่าสุด สัญญาการว่าจ้างผู้เดินรถในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย จะเกิดขึ้นในเดือนก.ค. โดยจะมีการเจรจากับ BMCL ในเร็วๆ นี้ เพื่อหาข้อสรุป จะเห็นว่า รัฐบาล และคณะทำงานด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่างเร่งมือในการผลักดันโครงการต่างๆ ให้ออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเชื่อว่าครึ่งปีหลังของปี 58 จะมีความชัดเจน รวมถึงกรอบเวลาของการเปิดประมูลโครงการต่าง และรูปแบบการลงทุน ทั้งในแง่ของ G-to-G / PPP (ร่วมทุนกับเอกชน) / ประมูล / สัมปทาน
ขณะที่รายงานการประชุมเฟดเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ไม่ส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย.นี้ แต่ยังคงยืนยันที่จะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่เริ่มกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่า และราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับต่ำ กลายเป็นความเสี่ยงต่ออัตราเงินเฟ้อได้
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำ “นักลงทุนกลับมาเริ่มทยอนสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ SET INDEX ที่ 1,510-1,515 จุด ในส่วนแรก”
Top Pick in Q2/15: ITD/TASCO/TPIPL/WHA
Accumulative Buy: BMCL
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ค.) ว่า การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ของ KBANK, SCB และคาดว่าธนาคารใหญ่อื่นๆ จะลดดอกเบี้ยตามมา ซึ่งการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 2 ครั้งในไตรมาส 2/15 จะเป็นปัจจัยกดดัน NIM ของธนาคารพาณิชย์ทำให้กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ยังมีแนวโน้ม “Underperform” ตลาดต่อไป ขณะที่กลุ่ม Micro Finance ที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำอย่าง SAWAD น่าสนใจมากกว่า และแนะนำ “ซื้อ”
การปรับลดดอกเบี้ยของ ธ.พ.ทำให้กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากดอกเบี้ยต่ำมีแนวโน้ม Outperform ตลาดได้แก่ 1) กลุ่มหุ้นปันผลสูง อย่าง INTUCH รอรับปันผลกลางปี ประมาณ 3% 2) กลุ่มหุ้นที่ต้นทุนทางการเงินลดลง และธุรกิจเติบโตดี อย่าง SAWAD สำหรับการลงทุนภาครัฐฯ ที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ รวมไปถึงการขยายสนามบิน เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ แนะนำ “ซื้อ” CK, SEAFCO รวมถึง AOT
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ค.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน SET มีคาดการณ์ P/R 15.4 เท่า และยังมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรปี 2558-59จึงเน้นเลือกหุ้นที่มีกำไรฟื้นตัว/เติบโตโดดเด่นตลอดปีนี้ RCL ([email protected]) และ VNG (FV@B 10.25) วันนี้เลือก IRPC ([email protected]) เป็น Top Pick คาดกำไรมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่องในงวดที่เหลือของปีนี้ และต่อเนื่องปี 2559 จากโครงการ Phoenix
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (21 พ.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค ดัชนีตลาดพักตัวเหนือระดับแนวรับอันแรกที่ 1,510 และยังสูงกว่า MA10 เป็นแสดงสัญญาณขาขึ้นอยู่และยังทำให้ SET มีทิศทางปรับขึ้นทดสอบ 1,532 ในระยะใกล้นี้อีกต่อไป โดยภาพของ SET ยังได้รับการขับเคลื่อนด้วย MA10 และ MACD ที่เคลื่อนไหวสูงกว่า signal line ทำให้ SET เคลื่อนตัวเป็นแนวโน้มขึ้น
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,510-1,530
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร THANI และ RWI