SET บวกต่อ รับแรงหนุนหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเคาะ 14 หุ้นเด็ด เน้นสะสมหุ้นพลังงาน-หุ้นกำไรดี
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,538/1,550 จุดหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเพิ่มขึ้นวาน คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมีแต่ SET มีโอกาสถูกกดดันด้วยกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้รับกระแสเชิงลบจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีโอกาสฟื้นตัวช้ากว่าคาด แต่ Downside risk ช่วงสั้นยังคงเป็นไปอย่างจำกัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.38 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,538/1,550 จุด หลังราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นเพิ่มขึ้น คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่น และปิโตรเคมี อย่างไรก็ตามยังมีโอกาสถูกกดดันด้วยกลุ่มธนาคารซึ่งได้รับกระแสเชิงลบจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีโอกาสฟื้นตัวช้ากว่าคาด แต่ Downside risk ช่วงสั้นยังคงเป็นไปอย่างจำกัด
หุ้นเด่นเลือก SPALI-UWC-RCL-VNG-IRPC-PTTGC-BCP-SCC-SAWAD-INTUCH-TIPCO-TOP-PTT และ SEAOIL
บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.) กลยุทธ์การลงทุน ยังขาดแรงหนุน ขณะที่ SET มี Expected P/R 15.5 เท่า และมีความเสี่ยงต่อการปรับลดประมาณการกำไรอีก กลยุทธ์ยังเน้นเป็นรายหุ้นหุ้นที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ (RCL, VNG, IRPC) ซึ่งหลังนักวิเคราะห์ ASPS เข้าพบผู้บริหารยิ่งมั่นใจ VNG ([email protected]) มากขึ้นจึงเลือก เป็น TopPick นอกจากกำไรจะเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสที่เหลือของปีนี้ ยังมี P/E 10 เท่าและเงินปันผล 4%
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.) ว่ายังมองเป้าหมายการปรับสูงขึ้นของ SET ที่ 1,538/1,550 จุด เหมือนเดิม ล่าสุดตัวเลขภาคอสังหาฯ และการจ้างงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอหนุนแนวโน้ม Fed คงดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงปลายปีนี้เป็นอย่างน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มโรงกลั่นฯ ปิโตรฯ (PTTGC BCP SCC)
ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” PTTGC-SCC-BCP ได้ผลดีน้ำมันขึ้น ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ และค่าการกลั่นสูง โดยยังคงแนะนำซื้อ หุ้นกลุ่มปิโตรฯ โรงกลั่นฯ ต่อไปด้วยแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ได้รับผลดีจากส่วนต่างระหว่าง HDPE Naphtha สูง US$800/ตัน, ค่าการกลั่นสูง US$10/bbl, และโอกาสในการบันทึกกำไรสต็อกน้ำมัน อย่าง PTTGC SCC และ BCP
นอกจากนี้ยังชอบกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารพาณิชย์ อย่าง SAWAD และ INTUCH (รอรับปันผลกลางปีประมาณ 3%)
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.)ว่าคงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 39 พร้อมกับกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,520-1,530 จุด อีกทั้งวันนี้เป็นการซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ อาจเกิดแรงขายระยะสัปดาห์เข้ามามากขึ้นในช่วงท้ายตลาด อาจกดดัน SET INDEX ได้
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX ช่วงสั้นยังคงเป็นไปอย่างจำกัด เพราะแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มจำกัดมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการกลับมาเลือกสะสมหุ้นบางกลุ่มเช่น พลังงาน/ปิโตรเคมี ที่ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจโลกเป็นสำคัญ หรือกลุ่ม ICT ที่จะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาล และให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง
ขณะที่กลุ่มธนาคารยังคงมีความเปราะบางอยู่ไม่น้อย ทั้งในแง่ของการทยอยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ รวมถึงความกังวลต่อระดับหนี้เสีย การฟื้นตัวของหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารยังเป็นไปอย่างจำกัดและเปราะบาง
ภาพตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้นให้น้ำหนักกับตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศวันที่ 26 พ.ค. หากกลับมาฟื้นตัวได้ และตามมาด้วยตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนเม.ย. ที่ ธปท.จะรายงานในวันศุกร์หน้า เชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศได้ดีขึ้น
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนกลับมาเริ่มทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ SET INDEX ที่ 1,510-1,520 จุด ในส่วนแรก Speculaitve Buy: TIPCO
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.) แนวโน้ม วันนี้ มอง SET ทรงตัวในระดับสูงในกรอบ 1,520-1,530 จุด มีแรงหนุนมาจากหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่ได้รับกระแสเชิงบวกจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นวานนี้ แต่ SET จะถูกกดดันด้วยกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้รับกระแสเชิงลบจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีโอกาสฟื้นตัวช้ากว่าคาด, แนวโน้มหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น และทิศทางดอกเบี้ยขาลง กลยุทธ์การลงทุนเก็งกำไรหุ้นพลังงานที่ได้รับกระแสเชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ดีดตัวแรงในระยะสั้น
Top Daily Pick : TOP (มูลค่าเหมาะสม 60 บาท) PTT (มูลค่าเหมาะสม 385 บาท)
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.) คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อ หลังวานนี้แข็งกว่าคาดเล็กน้อย ทางขึ้นอาจจำกัดแถว 1,532 จุด (อิงแนวต้านนักวิเคราะห์เทคนิควันนี้) ปัจจัยบวกคือเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งและความชัดเจนต่อโครงการลงทุนขนาดใหญ่ น่าจะหนุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันนี้
นอกจากนี้หุ้นพลังงานน่ามีแรงหนุนจากน้ำมันปรับตัวขึ้น 3.3% ตามการคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันช่วงวันหยุดเมโมเรียลเดย์สูงสุดรอบ 10 ปี ด้านปัจจัยเศรษฐกิจภายนอกเป็นกลาง ตัวเลขสหรัฐฯ ดีไม่ดีปนๆกัน
ขณะที่การเจรจาหนี้สินกรีซรอบล่าสุดเมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้ข้อสรุปใดๆ ด้านปัจจัยที่ควรติดตามได้แก่ การแถลงของประธานเฟดคืนนี้ คาดไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย และตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เม.ย. ซึ่งอาจมีนัยต่อนโนยบายการเงินในระยะถัดไป
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร TIPCO (ราคาถูกเกินไปเทียบกัน TASCO) ,SEAOIL
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (22 พ.ค.) แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,508-1,530 จุด หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ SPALI-UWC