TICONทุ่มงบรับAECรุกหัวเมืองใหญ่-ตปท.
ในปี 2558 TICON ตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 5-10% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวม 6,164.95 ล้านบาท จากการก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยจะก่อสร้างตามความต้องการของลูกค้า
“วีรพันธ์ พูลเกษ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON ผู้ให้บริการ ก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมมาตรฐานและคลังสินค้าให้เช่าและขายในนิคมอุตสาหกรรม สวนอุตสาหกรรม และทำเลอื่นที่มีศักยภาพในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีแนวทางการที่จะสร้างองค์กรให้ยั่งยืน และยังให้การตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ยอมรับและไว้ใจในการทำงานของบริษัทมาโดยตลอด โดยมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิในแต่ละงวด รวมถึงบริษัทยังมีกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยต่อปี 7%
สำหรับแผนงานของบริษัทนั้น บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาแผนการลงทุนไปยังต่างประเทศ โดยขณะนี้บริษัทได้ขยายการให้บริการ ทั้งโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่าไปยังบริเวณภูมิภาคเหนือ และภาคอีสาน ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาที่จะไปพัฒนาโครงการให้เช่าโรงงานและคลังสินค้าในอาเซียน ภายหลังจากที่มีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การใช้โรงงานและคลังสินค้ามีเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้คลังสินค้าในต่างประเทศ เช่น บริเวณประเทศเพื่อนบ้าน มองว่าเป็นโอกาสที่จะสามารถขยายไปได้
ขณะที่ผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นลูกค้าของบริษัทมีการปรับตัวได้ดีมากขึ้น ภายหลังจากที่ประเทศไทยเกิดภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง จึงทำให้ประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ผู้ประกอบการจึงเปลี่ยนแนวทางธุรกิจ ขยายสินค้าไปยังต่างประเทศในละแวกเพื่อนบ้าน แต่ยังคงใช้ไทยเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า จึงทำให้บริษัทจะต้องเตรียมที่ดินไว้เพื่อก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเติบโต ทั้งในละแวกเพื่อนบ้านของประเทศ และการกลับเข้าสู่ภาวะปกติของประเทศ
สำหรับการให้บริการก่อสร้างโรงงานมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากอุปสงค์จากโครงการรถยนต์คันแรกเริ่มจากชะลอตัวแล้ว จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มจะมีการเปลี่ยนรถยนต์ หรือมีกำลังซื้อรถเพิ่มเติม ประกอบกับนโยบายของสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) จะมีการส่งเสริมในโครงการรถยนต์อีโคคาร์ เฟส2 ซึ่งมีผู้ประกอบการรถนยนต์หลายค่ายให้ความสนใจของส่งเสริมการลงทุนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเมื่อมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นของโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า ทำให้บริษัทจึงต้องจะใช้เงินทุนจำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อทำการขยายพื้นที่ให้เช่า โดยจะแบ่งเป็นการขยายพื้นที่โรงงานประมาณ 1 แสนตารางเมตร และขยายคลังสินค้าให้เช่าประมาณ 350,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่คาดว่าจะขอเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยจะเป็นการขยายพื้นที่ให้เช่าในบริเวณจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดลำพูน ส่วนแหล่งเงินทุนที่มานั้นจะมาจากกระแสเงินสดและการนำสินทรัพย์เข้ากองทุน ซึ่งบริษัทได้ใช้ทุกช่องทางตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ทุกช่องทางแล้ว
โดยเมื่อดำเนินการซื้อที่ดินเพื่อรองรับการก่อสร้างให้กับลูกค้าแล้ว บริษัทก็จะดำเนินการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท เฉลี่ยปีละ 4,500 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะนำเอาสินทรัพย์จากต่างประเทศเข้ามาอยู่ในกองด้วย ซึ่งสินทรัพย์ที่มีจะรายได้จากค่าเช่าต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10-15 ปี
สำหรับในปี 2558 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 5-10% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวม 6,164.95 ล้านบาท จากก่อสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยจะก่อสร้างตามความต้องการของลูกค้า ทั้งนี้ ภายหลังจากการที่บริษัทได้เดินทางไปแสดงข้อมูลที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ซึ่งมีนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนถือหุ้นในบริษัท แต่อย่างไรก็ตามเพียงให้ความสนใจที่จะเข้าลงทุน แต่ยังไม่ได้มีการลงทุนแต่อย่างใด
ส่วนแนวทางการสร้างองค์กรอย่างยั่งยืนนั้น การบริหารงานจะต้องไม่ใช้อำนาจของจนเกินไป ต้องมีการกระจายอำนาจในการบริหารงาน เพื่อให้หัวหน้างานเข้าใจถึงหลักการบริหารงานได้เป็นอย่างดี
“เราเป็นผู้พัฒนาโครงการโรงงานและคลังสินค้า เวลาเราไปสร้างที่ไหนก็จะมีผลกระต่อสิ่งแวดล้อม เราจึงต้องคำนึงถึงสังคมเป็นหลักซึ่งจะต้องให้เป็นที่ยอมรับแกชาวบ้านด้วย”