MCS ยังแข็ง!

การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น MCS สะท้อนมาจากผลประกอบการยังแข็งแกร่ง พร้อมกับไตรมาส 1/58 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 334% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน


หากดูราคาหุ้นบนกระดานของ บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MCS พบว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2558 ราคาหุ้นมีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางบวก เพราะมีการขยับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยดูได้จากราคาหุ้นเดิมอยู่ที่ 5.40 บาท ต่อมาราคาหุ้นค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นมาทำจุดสูงสุดแรกที่ 6.60 บาท แต่หลังจากนั้นราคาหุ้นปรับตัวลงเล็กน้อยลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 6.10 บาท

ถัดมาราคาหุ้นกลับมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอีกครั้ง จนมาทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 7.20 บาท และหลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ช่วงระยะสั้นๆ แล้วค่อยปรับตัวขึ้นต่อไปทำจุดสูงสุดที่ 7.85 บาท แต่หลังจากนั้นมีการอ่อนตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 7.05 บาท จนที่สุดราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้วได้ทำจุดสูงสุดรอบใหม่นับตั้งแต่ต้นปี 2558 หรือในรอบ 4 เดือน 19 วัน โดยราคาหุ้นมาอยู่ที่ 8.75 บาท

แสดงให้เห็นว่าการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นสะท้อนมาจากผลประกอบการยังแข็งแกร่ง พร้อมกับไตรมาส 1/58 บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 334% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ส่วนของผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 918.64 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 299.33 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 191.28 ล้านบาท หรือ 0.38 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 44.12 ล้านบาท หรือ 0.08 บาทต่อหุ้น

เมื่อวิเคราะห์ฐานะทางการเงินเพื่อเป็นตัวแปรในการตัดสินใจต่อการลงทุน พบว่าฐานะทางการเงินของบริษัทยังแข็งแกร่ง เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 2,118.74 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 445.09 ล้านบาท ได้ค่า CURRENT RATIO อยู่ที่ระดับ 4.76 เท่า แสดงว่า บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินมากเกินความจำเป็น และตัวบริษัทอาจเผชิญกับปัญหาทุนจมในอนาคต

ส่วนปัญหาหนี้สินของบริษัทไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 520.81 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีอยู่ 2,238.55 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 0.24 เท่า แสดงว่า บริษัทไม่มีปัญหาหนี้สินมารบกวนการดำเนินงานแต่อย่างใดในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้บริหารระบุว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจเริ่มสดใสขึ้น เพราะบริษัทมีมูลค่างานในมือแล้ว 1.5 แสนตัน โดยส่วนใหญ่สินค้าโครงสร้างเหล็กของบริษัทจะมีการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก และในปี 2559 ประเทศญี่ปุ่นจะมีการสร้างสนามกีฬาโอลิมปิก 2 แห่ง จึงเป็นโอกาสทองของบริษัทที่จะได้รับงาน

ดังนั้นจึงมั่นใจว่าผลการดำเนินของบริษัทในปี 2558 น่าจะมีการเติบโตที่สดใส และคาดว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ 10,000 ล้านเยนจากมูลค่างานในมือที่มีอยู่ 1.5 แสนตัน และยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานใหม่ๆ มูลค่าสูงเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะงานโครงการขนาดใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น

MCS กลายเป็นหุ้นที่น่าจับตามองอีกตัว!!

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายไน ยวน ชิ 60,000,000 หุ้น 12.00%

2.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 38,144,200 หุ้น 7.63%

3.นายฮารกิชิน ทันวานี 24,990,000 หุ้น 5.00%

4.นายสุรชัย รติทอง 24,184,500 หุ้น 4.84%

5.นายวิชัย มิตรสันติสุข 14,280,500 หุ้น 2.86%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ไนยวน ชิ ประธานกรรมการ

2.นายไนยวน ชิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

3.นายไพรัตน์ วิวัฒน์บวรวงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ

4.นายพรชัย พิศาลอนุกูลกิจ กรรมการ

5.นายไพรัตน์ วิวัฒน์บวรวงษ์ กรรมการ

Back to top button