ชง 13 หุ้นเน้นรายตัวมีปัจจัยบวก-กำไรฟื้นSET แกว่งแคบ-แผนขายหุ้นก.คลังไม่กระทบ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมแกว่งตัวในกรอบแคบ แม้แผนการขายหุ้นที่ถืออยู่บางส่วนของ ก.คลังจะเป็นปัจจัยกดดันทาง Sentiment แต่ไม่มีผลกระทบทางพื้นฐาน ภาพรวมยังดูยืนระยะสั้นได้ แต่ต่างชาติอาจชะลอซื้อสุทธิบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.46 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยเงินเยนที่อ่อนค่าได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นบวกขึ้น
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ภาพรวมแกว่งตัวในกรอบแคบ แม้แผนการขายหุ้นที่ถืออยู่บางส่วนของ ก.คลังจะเป็นปัจจัยกดดันทาง Sentiment แต่ไม่มีผลกระทบทางพื้นฐาน ภาพรวมยังดูยืนระยะสั้นได้ แต่ต่างชาติอาจชะลอซื้อสุทธิบ้าง
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ RCL, VNG, IRPC, TTCL, INTUCH, BJCHI, TIPCO, PTT, SAT, SCN, UPA, TTCL และ XO
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ค.) ว่าการอ่อนตัวของ SET ที่แนวรับ 1,520 จุด เป็นโอกาส “ซื้อ” โดยประเมินเป้าหมายการปรับขึ้นที่ 1,538/1,550 จุด เหมือนเดิม แม้แผนการขายหุ้นที่ถืออยู่บางส่วนของ ก.คลัง (AOT BCP MCOT MFC NEP PDI PTT TMB THAI THL) จะเป็นปัจจัยกดดันทาง Sentiment แต่ไม่มีผลกระทบทางพื้นฐาน และคาดว่า ก.คลังไม่ได้ขายหุ้นทุกตัวที่ถืออยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ถ้อยแถลงประธาน Fed ปลายสัปดาห์ก่อน มองดอกเบี้ยขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปภายในปีนี้
แนะนำ “ซื้อ” TTCL ด้วยเป้าหมาย 51 บาท จากแนวโน้มผลการดำเนินงาน Turnaround ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป +53% หลังงาน EPC กำไรต่ำบันทึกไปแล้ว และโรงไฟฟ้า 120MW ผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังตั้งแต่ 2Q15 ขณะที่รายได้ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจะเริ่มเข้ามาตั้งแต่ปีหน้าหนุนกำไรเติบโตต่อ 81% ในปี 2016…รวมถึงแนะนำ “ซื้อ” Dividend Play อย่าง INTUCH ต่อไป
บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ค.) เชื่อว่า SET Index ยังแกว่งตัวลง จากความเสี่ยงต่อการปรับลดกำไรตลาดยังมีอยู่ พรุ่งนี้ติดตามผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ต่อตลาดทุนผ่าน IAA กลยุทธ์ยังเน้นเป็นรายหุ้นหุ้นที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ (RCL, VNG, IRPC) วันนี้ยังเลือก VNG ([email protected]) Top Pick
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้น ตลาดยังแกว่งแคบ เน้นเก็งกำไรรายตัว
คาด SET แกว่งตัวแคบ ภาพรวมยังดูยืนระยะได้ แต่ช่วงสั้นต่างชาติอาจชะลอซื้อสุทธิบ้าง หลังเงินดอลล่าร์กลับมาแข็ง ตามเงินเฟ้อพื้นฐานสหรัฐ เม.ย. +0.3% MoM +1.8% YoY (สูงกว่าคาด) ผนวกถ้อยแถลงประธานเฟดเมื่อวันศุกร์ชี้ว่าอาจขึ้นดอกเบี้ยช่วงใดช่วงหนึ่งครึ่
ปีหลังปี 58 นี้ นอกจากนี้นักลงทุนอาจชะลอซื้อขายเพื่อติดตามชุดข้อมูลเศรษฐกิจไทย เม.ย.ในสัปดาห์นี้ (ส่งออก/นำเข้า และตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม) คาดหุ้นกลุ่มรับเหมาฯ และกลุ่มก่อสร้างจะยังเด่น หลังรัฐบาลเดินหน้าสร้างความชัดเจนเรื่องโครงการลงทุนขนาดใหญ่ สรุปภาพรวมSET ยังไซด์เวย์ แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเข้ามา
หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร BJCHI, TIPCO
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์(25 พ.ค.) คงมุมมองเป็น “กลาง” วันที่ 40 พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX ระหว่าง 1,515-1,530 จุด และมูลค่าการซื้อขายเบาบางต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ต่างรอดูตัวเลขการส่งออกเดือนเม.ย.ของไทยในวันพรุ่งนี้ เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 2Q58 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนไม่ได้คาดหวังที่จะเห็นตัวเลขการส่งออกพลิกกลับมาเป็นบวกลักษณะ yoy หรือ ฟื้นตัว qoq เพราะเดือนเม.ย.เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งภาคการผลิตปิดทำการเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ประธานเฟด ยืนยันที่จะพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายภายในปี 2558 แม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงก็ตาม ทำให้ความเสี่ยงต่อตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนในช่วง 3-5 เดือนข้างหน้า ณ ปัจจุบัน ตลาดประเมินว่าเฟดจะพิจารณาขึ้นในการประชุมเดือนก.ย.นี้
ดังนั้นตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีสัญญาณที่ดีขึ้น พร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นขึ้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจไทยเป็นสำคัญ ทั้งการส่งออก / การบริโภคภายในประเทศ และการใช้จ่ายของภาครัฐ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาขั้นตอนต่างๆ เชื่อว่าแผนการลงทุนขนาดใหญ่จะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นใน 3Q58 เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชีย Nikkei เปิดบวกหลังยอดส่งออกเดือน เม.ย.ออกมาดีกว่าคาด ส่วน Kospi ปิดทำการวันนี้
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ SET INDEX ที่ 1,510-1,520 จุด ในส่วนแรก”
Accumulative Buy: INTUCH
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (25 พ.ค.)ว่า เชื่อว่า หุ้นขนาดใหญ่มีโอกาสฟื้นตัวหลังรับกระแสเชิงลบเมื่อวันศุกร์ หนุนให้ SET ปรับตัวเพิ่มขึ้นระยะสั้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1530 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน)
สหรัฐฯรายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ลดลง 0.2%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและพลังงาน หรือ Core CPI) ขยายตัว 1.8%YoY ดีกว่าคาดที่ 1.7%YoY เล็กน้อย ขณะที่เจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed คาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ แต่มุมมองตลาดยังเชื่อว่า น่าจะเกิดขึ้นไม่เร็วนัก โดยเทรดเดอร์ในตลาดฟิวเจอร์สดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ คาดการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกเกิดขึ้นเดือน ธ.ค.
ประเด็นกดดันระยะ 1-2 สัปดาห์นี้ คือปัญหาหนี้กรีซ โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกิจการภายในของกรีซ ออกมากล่าวว่า กรีซไม่สามารถชำระหนี้แก่ IMF ที่กำลังจะครบกำหนดในเดือน มิ.ย. มูลค่า 1.6 พันล้านยูโร (แบ่งจ่าย 4 งวดเริ่มตั้งแต่ 5 มิ.ย.) จนกว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือ นอกจากนิ้ กรีซมีกำหนดชำระหนี้ก้อนใหญ่แก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในเดือน ก.ค. ราว 3.5 พันล้านยูโร และเดือน ส.ค. อีก 3.2 พันล้านยูโร
กลยุทธ์การลงทุน : ซื้อหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งแต่ราคาปรับลดลงมาจากแรงกดดันเชิง sentiment/ ซื้อหุ้น P/E ต่ำ และมี Upside สูงจากมูลค่าเหมาะสม
Top Daily Pick : PTT (มูลค่าเหมาะสม 385 บาท) มีโอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและมูลค่าเหมาะสมจากการขายหุ้นบริษัทลูก และการปรับราคา NGV/ SAT (มูลค่าเหมาะสม 22 บาท) หุ้น Initial coverage เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” ประเมิน SAT เป็นหุ้นยานยนต์ที่โดดเด่นสุดในกลุ่ม จาก 1) เป็นผู้นำ Market share ในตลาดสินค้าเพลาข้าง 2) มีการกระจายความเสี่ยงด้านรายได้ไปยังลูกค้ากลุ่มการเกษตร 3) ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 10 เท่าถูกกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 12.7 เท่า
Technical Pick : SCN INTUCH UPA TTCL XO