SET บวกช่วงสั้น ลุ้นทดสอบ 1,520 จุดชู 16 หุ้นเด่น เน้นเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ SET วันนี้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อยู่ในกรอบจำกัด หรือผันผวน ตามแรงซื้อจากกองทุนที่มีต่อเนื่อง โดยคาดว่า SET จะสามารถผ่าน 1,520 จุดไปได้ ด้วยเป้าหมายถัดไปที่ 1,550 +/- จุด จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อจากการลงทุนภาครัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่า upside ของดัชนีเริ่มจำกัด แนะนำเน้นซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.39 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 33.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ
ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ SET วันนี้ปรับตัวขึ้นได้ แต่อยู่ในกรอบจำกัด หรือผันผวน ตามแรงซื้อจากกองทุนที่มีต่อเนื่อง โดยคาดว่า SET จะสามารถผ่าน 1,520 จุดไปได้ ด้วยเป้าหมายถัดไปที่ 1,550 +/- จุด จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อจากการลงทุนภาครัฐฯ ที่เร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่า upside ของดัชนีเริ่มจำกัด แนะนำเน้นซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก
หุ้นเด่นเลือก TRUE-SCN-TUF-VNG-HANA-RCL-KBANK-KTB-BLA-CK-STEC-SEAFCO-AOT-VGI-IFEC-TMB
บล.เอเซียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) กลยุทธ์การลงทุนยังให้น้ำหนักต่อประเด็นเงินบาทอ่อนค่า ทั้งจากแรงขายของต่างชาติในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ รวมถึงโอกาสที่ กนง. จะลดดอกเบี้ยยังมีอยู่ กลยุทธ์ยังเน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์เงินบาทอ่อนค่า (TUF, VNG, HANA, RCL) ยังเลือก HANA(FV@B48) และ TUF(FV@B26) เป็น Top Picks
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ว่า SET เกิดสัญญาณ “กลับตัว” ทางเทคนิคแล้วหลังยืนเหนือ 1,492 จุด และแม้ Upside อาจยังจำกัดที่ 1,520 จุด รอความชัดเจนจากการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ
โดยคาดว่า SET จะสามารถผ่าน 1,520 จุดไปได้ ด้วยเป้าหมายถัดไปที่ 1,550 +/- จุด จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อจากการลงทุนภาครัฐฯที่เร่งตัวขึ้น ดอกเบี้ยยังต่ำต่อไป ขณะที่ความเสี่ยงระยะสั้นยังอยู่ที่ปัญหาหนี้กรีซ
ทั้งนี้โอกาสที่ กนง.ลดดอกเบี้ยในการประชุม 10 มิ.ย.นี้จำกัดมากขึ้น จะลดแรงกดดันต่อ NIM ธนาคารขนาดใหญ่ แนะนำ “ซื้อ” KBANK-KTB รวมถึง BLA ที่มีความเสี่ยงต่อการตั้งสำรองลดลง นอกจากนี้แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการลงทุนภาครัฐฯ มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้นไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟฟ้า (เข้า ครม.ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้) อย่าง CK-STEC-SEAFCO-AOT
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) คาด SET วันนี้บวกกรอบจำกัด/ผันผวน ตามแรงซื้อจากกองทุนที่มีต่อเนื่อง แต่คาดจะบวกสวนหุ้นเอเชียได้อีกไม่มาก (มองหุ้นภูมิภาคยังปรับลงต่อจากปัจจัยภายนอกที่ไม่ชัดเจน) วันนี้แนวต้านอิงนักวิเคราะห์เทคนิค 1,512 จุด ทั้งนี้มองว่าสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ได้กลับสู่ตลาด หลังตัวเลขจ้างงาน พ.ค. +2.80 แสนคน สูงกว่าที่ตลาดคาด +2.25 แสนคน และตัวเลขค่าจ้างแรงงาน +0.3% จากเดือนก่อน สูงกว่าคาดเช่นกัน
ส่วนฝั่งยุโรปยังถูกกดดันจากปัญหากรีซ ซึ่งได้ขอเลื่อนชำระหนี้ต่อ IMF ไปเป็น 30 มิ.ย. และสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่สามารถหาข้อสรุปใดๆ กับเจ้าหนี้ได้ ส่วนปัจจัยภายในกนง. ประชุมวันที่ 10 มิงญ. นี้ กลยุทธ์สั้น แนะนำรอขายทำกำไรหุ้นกลุ่มหลัก เพราะคาด upside ของดัชนีเริ่มจำกัด และคงเน้นซื้อเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็กเช่นเดิม
หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร VGI และหุ้นกลุ่มลีสซิ่ง
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) มุมมองต่อตลาดคงมุมมองเป็น “กลาง” แม้ว่า SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุดวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบาง ทำให้ประเมินว่า SET INDEX ที่ฟื้นตัวเป็นเพียง technical rebound ช่วงสั้นๆ เท่านั้น เพราะปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจยังมีความเปราะบางอยู่มาก
พร้อมแนะนำให้นักลงทุนรอฟังความเห็นทางเศรษฐกิจ จาก ธปท. ในวันที่ 10 มิ.ย. เพื่อประเมินช่วงที่เหลือของปีนี้ เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ถึง 3.0-3.5% ตามที่ประเมินไว้ได้หรือไม่
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ “นักลงทุนเลือกเก็งกำไรหุ้นเป้าหมาย แบบจำกัดวงเงิน และพร้อมขายทำกำไร เมื่อผลตอบแทน 5% +/- ในแต่ละรอบ” ภายใต้ภาพ SET INDEX ที่ยังมีความเปราะบาง
Speculative Buy: IFEC-TMB
บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) ว่าทิศทางตลาดคาดยังมีความผันผวนภายใต้ปัจจัยกดดันจากประเด็นเดิมต่างประเทศ 1) ความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซที่มีการเลื่อนออกไปเป็นชำระงวดเดียวในวันที่ 30/6/58 (จากเดิม 4 งวด) มูลค่ารวม ประมาณ 1,600 ล้านยูโร
ขณะที่กรีซยังประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ ซึ่งในกรณีเลวร้ายสุดอาจทำให้กรีซต้องออกจากยูโร และอาจส่งผลกระทบต่อประเทศสมาชิกอื่นๆ 2) ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับระยะเวลาของเฟดที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเฟดจะมีการประชุมในวันที่ 16 – 17/6/58 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดโดยเฉพาะการจ้างงานแข็งแกร่ง และก่อนหน้าประธานเฟดระบุอาจพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในความคาดหมาย และการปรับขึ้นเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ด้านปัจจัยในประเทศคาดยังได้รับปัจจัยลบจาก Fund Flow หลังมีแรงขายสุทธิของต่างชาติต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามคาดได้รับการชดเชยจากแรงซื้อสุทธิของสถาบันในประเทศ ขณะที่แนะติดตาม (1) การประชุม กนง. (10/6/58) ซึ่งหากมีการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยคาดเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาด แนะเก็งกำไรกลุ่มที่อยู่อาศัย เช่น SIRI เป็นต้น อย่างไรก็ตามคาด ธปท. มีการปรับลดเป้าหมาย GDP ปี 58 จากเดิมที่ 3.8% (2) Window Dressing-Q2/58 วันที่ 30/6/58
ทั้งนี้ยังแนะนำติดตาม 1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น TOP, PTTGC, IRPC และ BCP ตามการเคลื่อนไหวของค่าการกลั่น ล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 7.73 USD/bll ลดลงจากก่อนหน้านี้ ที่อยู่ประมาณ 8-9 USD/bll 2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ เช่น CK, ITD, SEAFCO และ UNIQ 3) ค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 33.88-33.90 คาดส่งผลดีต่อส่งออก และหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA, HANA, SMT (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ เช่น SCC และ TASCO เป็นต้น
หุ้นแนะนำ: VNG
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 มิ.ย.) มุมมองทางเทคนิคในเชิงเทคนิคเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน SET ดีดตัวผ่าน MA10 รวมถึงกราฟ candlestick ส่งสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ด้วยสัญญาณ breakout ผ่านแนวต้านที่ 1,495 จุด และเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างฐานในทิศทางขึ้นรอบใหม่ที่จะทดสอบระดับ 1,535 จุด
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,495-1,513 จุด หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไรที่กรอบแนวรับ-แนวต้าน หุ้นที่น่าสนใจ TRUE-SCN