CBG ส่งออกแกร่งแต่ฐานอัตรากำไรลดลงโบรกฯมองเป็นหุ้นเครื่องดื่มที่แพงแนะขาย

CBG โบรกฯแนะนำ "ขาย" ด้วยมูลค่าที่แพง เมื่อเทียบกับการเติบโตที่ไม่น่าตื่นเต้น และการขยายตัวของอัตรากำไรที่กำลังจะจบลง เรามองว่าการซื้อขายที่ 31 เท่าของ PE ปี 2015F นั้นแพงเกินไปสำหรับหุ้นเครื่องดื่ม เราชอบ ICHI กับ SAPPE มากกว่า และเห็นดาวน์ไซด์ 18% ต่อราคาเป้าหมายที่ 35 บาท/หุ้น


บล.ธนชาตระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(12 มิ.ย.) ว่าบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG จะเติบโตแข็งแกร่งในปี 58 แต่จะอ่อนแอลงหลังจากนั้น โดยเราประมาณการการเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่ 29% ในปี 2015 จากช่องทางการกระจายสินค่าที่เพิ่มขึ้น บวกกับการขยายตัวของอัตรากำไรจากสัดส่วนการจ้างผลิตที่ลดลง หลังจากนั้นเราคาดว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นจะลดลงเหลือ 15% ต่อปีระหว่างปี 58-61โดยได้ประมาณการการเติบโตของส่งออกในทิศทางที่เป็นบวกมากแล้วที่ 31% ต่อปี สำหรับในประเทศ เราคาดการณ์การเติบโตเพียง 7% ต่อปีระหว่างปี 58-61

เนื่องจากมองว่า CBG ได้รับประโยชน์จากช่องทางการกระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว บวกกับที่ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังถือเป็นตลาดอิ่มตัว หาก CBG ต้องการจะเติบโตเกินระดับปกติ บริษัทจะต้องบุกเข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มประเภทอื่นๆที่ยังไม่อิ่มตัว ซึ่งเรามองว่าเป็นไปได้ยากที่ CBG จะสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดมาได้สำเร็จ เนื่องจากตลาดที่ไม่อิ่มตัวมีการแข่งขันสูงมาก และมีอุปสรรคต่อการเข้าตลาดต่ำ

โดยมองว่า CBG เป็นหุ้น CLMV จากแนวโน้มการส่งออกที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยเราประมาณการการเติบโตของส่งออกที่ 32% ในปี 2015 ตามด้วยการเติบโตเฉลี่ย 31% ต่อปีในปี 58-61 อย่างไรก็ตามสินค้าส่งออกมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าสินค้าขายในประเทศถึง 7% เนื่องจากมีค่าใช่จ่ายในการผลิตที่สูงกว่า ในขณะที่ราคาขายเฉลี่ยระหว่างส่งออกกับในประเทศนั้นไม่ต่างกัน ดังนั้น เราจึงคาดการณ์การเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นหดตัว จาก 36.6% ในปี 58 เป็น 35.8% ในปี 60 และ 35.3% ในปี 62

ส่วนการซื้อขายที่ 31 เท่า PE ปี 2015F และ 27 เท่า PE ปี 59 เทียบกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้นไม่น่าตื่นเต้นที่ 15% ระหว่างปี 58-60 ทำให้ CBG เป็นหุ้นเครื่องดื่มที่แพงที่สุดภายใต้ประมาณการเรา เทียบกับ ICHI ซื้อขายที่ 22 เท่า PE ปี 2015F และ 19 เท่าปี 59 เทียบกับการเติบโตของกำไรต่อหุ้น 21% และ SAPPE ที่ 20 เท่า, 15 เท่า และ 25% ตามลำดับ 

อีกทั้ง CBG ยังมีความสามารถในการทำกำไรต่ำ และไม่มีแนวโน้มการเติบโตของ ROE ที่ชัดเจนหากเทียบกับ ICHI และ SAPPE เราชอบ ICHI และ SAPPE มากกว่า CBG ด้วยมูลค่าที่ถูกกว่า การเติบโตที่ดีกว่า และความสามารถในการทำกำไรที่สูงกว่า

Back to top button