น้ำมันดิบปิดบวกจากคาดการณ์สต็อกร่วง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดวานนี้ (16 มิ.ย.) ที่ 59.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 25 เซนต์ ปิดที่ 63.7 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลงอีก หลังจากสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 มิ.ย. ลดลง 6.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 470.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบ ลดลง 1.02 ล้านบาร์เรล แตะที่ 58 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป โดยสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุในรายงานว่า ซาอุดิอาระเบีย อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ต่างก็เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบรายเดือนขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลให้การผลิตน้ำมันของโอเปกยังคงเกินเพดานที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ โอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 31.33 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2555 และมากกว่าเป้าหมายที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน เป็นเดือนที่สามติดต่อกันแล้ว
ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า กลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบไปด้วย สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน รัสเซีย และเยอรมนี พยายามที่จะบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายเพื่อควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านให้ได้ภายในกำหนดเส้นตายวันที่ 30 มิ.ย.นี้