พาราสาวะถีอรชุน

คงต้องหยุดเรียกร้องใดๆ สำหรับการเป็นไทยในยุคของรัฐบาลคสช. เพราะล่าสุด องค์รัฏฐาธิปัตย์ท่านบอกไว้ว่า ต้องสอนการรับรู้ให้ประชาชน ให้ระวังและเตรียมการช่วยตัวเอง รัฐบาลจะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ ถ้ามาเรียกร้องอย่างเดียวแก้ไม่ได้ รัฐบาลไหนก็แก้ไม่ได้ ถ้าทุกคนมาเอาทุกอย่างในเวลาเดียวกันทั้งหมด แล้วกดดันทุกอย่าง เป็นอย่างนั้นตนก็ไม่ต้องเข้ามา แล้วให้รัฐบาลปกติทำไป เขาทำได้หรือไม่


คงต้องหยุดเรียกร้องใดๆ สำหรับการเป็นไทยในยุคของรัฐบาลคสช. เพราะล่าสุด องค์รัฏฐาธิปัตย์ท่านบอกไว้ว่า ต้องสอนการรับรู้ให้ประชาชน ให้ระวังและเตรียมการช่วยตัวเอง รัฐบาลจะช่วยเท่าที่สามารถทำได้ ถ้ามาเรียกร้องอย่างเดียวแก้ไม่ได้ รัฐบาลไหนก็แก้ไม่ได้ ถ้าทุกคนมาเอาทุกอย่างในเวลาเดียวกันทั้งหมด แล้วกดดันทุกอย่าง เป็นอย่างนั้นตนก็ไม่ต้องเข้ามา แล้วให้รัฐบาลปกติทำไป เขาทำได้หรือไม่

ดูเหมือนจะเป็นการตอกย้ำถามซ้ำซากสำหรับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กรณีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งความเป็นจริงหากไร้อคติ ต้องยอมรับว่า ถ้าให้โอกาสรัฐบาลที่ประชาชนเลือกเข้ามาได้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่มีพวกคอยขัดขวาง หลายเรื่องน่าจะพอไปได้โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ แต่ที่ต้องเข้ามาไม่ใช่เหตุผลว่าทำได้หรือไม่ คนอย่างบิ๊กตู่น่าจะเข้าใจดีว่าเพราะอะไร

มีการพูดกันมาโดยตลอดต่อกรณีการย้อนแย้งของคนในองคาพยพที่ได้ชื่อว่าแม่น้ำ 5 สาย รวมไปถึงผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จด้วย เพราะวันวานที่นักข่าวถามเรื่องปัญหาภัยแล้ง ท่านก็ขู่ฉอดๆ ขณะนี้น้ำไม่มีก็จะเอาให้ได้ ต้องมองข้อเท็จจริงว่าจะเอาน้ำมาจากที่ใด เพราะเห็นอยู่ว่าแม่น้ำทุกแห่งต่างแห้งไปหมด ฝนไม่ตก น้ำในเขื่อนก็ไม่มี แต่จะเอาน้ำ ใครจะทำให้ได้

ต้องมองว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่และต้องหามาตรการดูแลคนที่ปลูกพืชไปแล้วทั้งที่ห้ามปลูก เมื่อเสียหายรัฐบาลต้องชดเชยดูแล แล้วถามว่า คนที่เชื่อรัฐบาลไม่ได้ปลูกจะทำอย่างไร ก็ต้องไปดูแลเขาอีก เพราะเสียโอกาส ส่วนที่เหลือเดี๋ยวก็ตามกันมาเป็นแถวๆ ตนอยากจะรู้ว่าจะเอาเงินจากที่ใด ตนคิดในเรื่องมาตรการเยียวยาทุกอย่าง แต่ปัญหาอยู่ที่จะเอาเงินจากไหน แล้วก็ถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินมาก

ไอ้โน้นไอ้นี่ก็จะเอา แต่ไม่ฟังเหตุผลว่าเราก็ทำ และอย่าไปปลุกเขาให้ออกมาเดินขบวนประท้วง ออกไม่ได้ เรื่องนี้ได้ให้ทุกคนไปทำความเข้าใจแล้ว ขอร้องว่าอย่าออกมาและอย่าให้ต้องบังคับใช้กฎหมาย ไม่ได้ขู่ แต่อย่ามาบังคับตน เพราะจะดูแลให้แต่ถ้ามาบังคับก็ดูแลไม่ได้ เลิกแล้วก็จบ ส่วนการผันน้ำนั้น เรามีแผนอยู่แล้วไม่ใช่ไม่คิด

น้ำในแม่น้ำโขง สาละวิน แม่น้ำยม เขาคิดหมดแล้ว ถามว่าการดำเนินการในแม่น้ำโขง เขาใช้เงิน 2 ล้านๆ เฉพาะโครงการเดียว ไปหาเงินมาแล้วตนจะทำให้ในวันนี้เลย ต่อจากนี้แม่น้ำอื่นก็ต้องใช้เงินอีกหลายหมื่นล้านก็ไปหามา ต้องเขียนแบบนี้ให้ตน ไม่ใช่ไม่รู้ ไม่คิด แก้ไขปัญหาไม่เป็นทำไม่ถูก แล้วตอนมันอยู่ ทำไมไม่ทำกัน


ของขึ้นเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้นำที่มาจากการรัฐประหาร แต่ที่ตีโพยตีพายเรื่องเงินนั้น มีคำถามอยู่ว่าแล้วที่กระทรวงการคลังขอยืมเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกองทุนกทปส. จำนวน 14,300 ล้านบาท สำหรับโครงการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำและระบบขนส่งทางถนนเร่งด่วนหมายความว่าอย่างไร

นี่ก็คือเงินส่วนหนึ่งใช่หรือไม่สำหรับการแก้ปัญหาภัยแล้ง แล้วจะอ้างว่าไม่มีเงินอย่างไร หรือว่าเงินที่ท่านผู้นำหมายถึงนั้นมันคือเงินจำนวนมากที่ต้องมีอยู่คงคลังไม่ใช่เที่ยวไปกู้ยืมหน่วยงานต่างๆ ที่ดูเหมือนว่า ส่วนงานที่ยอมปล่อยกู้มาให้นั้นจะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะสุ่มเสี่ยงว่าจะถูกนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์นับมาตั้งแต่กองทุนประกันสังคมจนมาถึงกองทุนกทปส.

อีกด้านก็เหมือนที่เคยย้ำไปว่า เป็นการแสดงถึงความไร้เครดิตของกระทรวงการคลังหรือเปล่าที่ไม่สามารถไปกู้ยืมจากสถาบันการเงินของรัฐหรือเอกชนได้ หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่าสถาบันการเงินเหล่านั้นไม่มั่นใจในมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะถึงเวลาที่บิ๊กตู่ต้องเปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเสียให้รู้แล้วรู้รอด

ณะเดียวกันกรณีไปขอยืมเงินจากกองทุนกทปส.นั้น สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสทช.ก็ได้แสดงความเห็นคัดค้าน โดยมองว่า แม้จะเป็นความจำนงจากกระทรวงการคลัง แต่ก็ยังต้องมีกระบวนการการให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เพราะมันเป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างการพัฒนาระบบน้ำขนส่งกับการพัฒนาด้านโทรคมนาคมขั้นพื้นฐาน

อะไรคือภารกิจสำคัญของกสทช.ในการนำเงินไปใช้ตรงนี้ หรือว่ารัฐบาลควรนำไปใช้มากกว่ากัน ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้เงินกองทุนเพื่อพัฒนาในเรื่องอื่นๆ ควรจะมีรายละเอียดของโครงการต่างๆ เข้ามา หรือขอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจมากกว่า เพราะน่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้เงินสาธารณะ และไม่ให้เสียชื่อความเป็นเอ็นจีโอเก่า สุภิญญายังตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อประชาชนด้วย

โดยมองว่าโครงการพัฒนาระบบน้ำ ควรมีการรับฟังความเห็นจากภาคประชาชนและองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมด้วยเพราะอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนในพื้นที่ ซึ่งกสทช.เองก็ยังไม่เห็นรายละเอียดในโครงการดังกล่าว ท่วงทำนองเช่นนี้หากมีการสังคายนากสทช.คิดว่าเจ้าตัวน่าจะเป็นตัวเลือกแรกที่ถูกเล่นงาน เพราะการยึดหลักการแต่ขัดใจหลักกูนั้นมีมาตั้งแต่คราวมติสั่งให้ปิดพีซ ทีวีของคนเสื้อแดงแล้ว

เรียบร้อยโรงเรียนรัฐบาลคสช. สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 หลังจากที่วานนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมด้วย วิษณุ เครืองาม ไปชี้แจงต่อที่ประชุมสนช.ซึ่งใช้วิธีพิจารณาแบบเต็มสภา 3 วาระรวด โดยที่มีสมาชิกลุกขึ้นถามตามคาดไม่ว่าจะเป็น สมชาย แสวงการ หรือ สมเจตน์ บุญถนอม ขาประจำต้านระบอบทักษิณ

คำถามหนีไม่พ้นเรื่องการเปิดช่องให้อดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 สามารถมีตำแหน่งแห่งหนทางการเมืองได้ ร้อนถึงวิษณุที่ต้องลุกขึ้นชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลไม่เปลี่ยนจุดยืน ต้องแยกคนผิด-ผู้ติดร่างแห ไม่สวนหลักการรัฐธรรมนูญชั่วคราว ไม่เอาพวกโกงจนถูกถอดถอน ไม่เสียชื่อเนติบริกรใหญ่ แต่สงสัยลืมต่อท้ายไปว่า ไม่เอาเฉพาะบางส่วนเท่านั้นนะ (ฮา)

 

Back to top button