ราคาทองปิดร่วงกว่า 17 ดอลล์ หลังเจรจาหนี้กรีซส่งสัญญาณบวก
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีสัญญาณด้านบวกว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปอาจจะบรรลุข้อตกลงในสัปดาห์นี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 17.8 ดอลลาร์ หรือ 1.48% ปิดวานนี้ (22 มิ.ย.) ที่ระดับ 1,184.10 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ 16.142 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 26.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,060.60 ดอลลาร์/ออนซ์
การเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปเริ่มส่งสัญญาณด้านบวก ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป และรัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ กล่าวในการแถลงข่าวว่า ข้อเสนอใหม่จากรัฐบาลกรีซซึ่งเขาได้รับเมื่อวานนั้น ถือเป็นขั้นตอนในเชิงบวกในกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ และอาจมีการบรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำเช่นกัน โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ที่ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 5.1% สู่ระดับ 5.35 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2009 และบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดทองคำนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น เพิ่มขึ้น 0.14% แตะที่ 94.21 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ