ดอลล์อ่อนค่าหลังเจรจาหนี้กรีซไม่คืบหน้า
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) ขณะที่การหารือระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้ที่ยังไม่มีความคืบหน้าส่งผลให้นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายล็อตใหญ่ แม้ว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมออกมาสดใส
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1203 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1202 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5732 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5699 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.61 เยน จาก 123.84 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9364 ฟรังก์ จาก 0.9343 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7741 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7707 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนแรงลง แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเมื่อคืนนี้ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังดีดตัวขึ้นจากภาวะหดตัวในช่วงฤดูหนาว โดยการใช้จ่ายในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2552 เทียบกับที่เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนเม.ย.
สำหรับรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% เช่นกันในเดือนเม.ย. ซึ่งนับเป็นการปรับตัวในช่วง 2 เดือนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2557 ขณะที่อัตราการออมลดลงสู่ระดับ 5.1% ในเดือนพ.ค. จาก 5.4% ในเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3,000 ราย สู่ระดับ 271,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับ 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 16 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูสถานการณ์หนี้สินของกรีซ ขณะที่ความหวังที่จะมีการเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่กรีซได้เลือนลางลงอีกครั้ง เมื่อการประชุมระหว่างกรีซและรัฐมนตรีคลังยูโรโซนสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ และทั้ง 2 ฝ่ายจะจัดการประชุมอีกครั้งในวันเสาร์นี้ โดยการประชุมในวันเสาร์นี้จะเป็นความพยายามครั้งสุดท้ายของกรีซและเจ้าหนี้ที่จะเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจจุดปะทุให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงิน
ด้านนักวิเคราะห์มองว่าเวลากำลังจะหมดลงสำหรับการบรรลุข้อตกลงระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้ ขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องชำระคืนเงินงวดราว 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ภายในสิ้นเดือนนี้