หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดวิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการเงินของกรีซ หลังจากรัฐบาลกรีซประกาศปิดธนาคารและตลาดหุ้น ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้จุดปะทุให้เกิดการคาดการณ์ว่า กรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.6% ปิดวานนี้ (30 มิ.ย.) ที่ 386.43 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,869.82 จุด ร่วงลง 189.35 จุด หรือ -3.74%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,083.20 จุด ดิ่งลง 409.23 จุด หรือ -3.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,620.48 จุด ลดลง 133.22 จุด หรือ -1.97%
นักลงทุนตื่นตระหนกต่อข่าวที่ว่า รัฐบาลกรีซประกาศใช้มาตรการควบคุมเงินทุน ขณะที่สั่งปิดธนาคารพาณิชย์ และตลาดหุ้นจนถึงวันที่ 6 ก.ค. และจำกัดการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มที่ระดับ 60 ยูโร (65 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวันในช่วงเวลาที่ธนาคารปิดทำการ
การประกาศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ประชาชนชาวกรีซพากันแห่ถอนเงินฝากในธนาคาร หลังจากที่บรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป ปฏิเสธที่จะขยายเวลาสำหรับโครงการความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ ที่จะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันพรุ่งนี้ และอาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน
ขณะที่กรีซมีกำหนดชำระหนี้ 1.6 พันล้านยูโรแก่ IMF ในวันนี้ และการผิดนัดชำระหนี้อาจส่งผลให้กรีซต้องออกจากยูโรโซน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกรีซรายหนึ่งกล่าวยืนยันว่า กรีซจะไม่ชำระหนี้แก่ IMF ได้
นอกจากนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงสู่ระดับ CCC- จากระดับ CCC และยังคงให้แนวโน้มเป็นลบ พร้อมระบุว่า ความเป็นไปได้ที่กรีซจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนั้น มีอยู่ถึง 50%