IFEC ทุ่ม 500 ลบ.ซื้อหุ้น “สมาร์ททรี”ลุยงานระบบ-ขยายเครือข่ายคมนาคม
IFEC ทุ่ม 500 ลบ.ซื้อหุ้น “สมาร์ททรี” ผ่านบ.ย่อย ICAP เพื่อรุกธุรกิจงานระบบ-ขยายเครือข่ายคมนาคมและสายส่งไฟฟ้า
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จากัด (มหาชน) หรือ IFEC ระบุว่า บริษัทได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยอีก 1 แห่ง คือ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์ จำกัด และได้ทำการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อยจานวน 2 แห่ง คือ บริษัท สมประสงค์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียน ตามที่ได้รับอนุมัติตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 6/2558 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2558 เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558
โดยบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ แคป แมนเนจเม้นท์ จำกัด “ICAP” โดยบริษัทถือหุ้น 100% เพื่อประกอบธุรกิจลงทุนและบริหารโครงการอื่นนอกเหนือจากโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ซึ่งมีแหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดของบริษัท
สำหรับวัตถุประสงค์การจัดตั้งบริษัทย่อยครั้งนี้ คือบริษัทมีความประสงค์จะขยายการลงทุนไปในธุรกิจอื่นที่จะเสริมสร้างรายได้ให้แก่บริษัทผ่าน ICAP จึงให้ ICAP เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท สมาร์ททรี จำกัด (“SMT”) ทุนจดทะเบียน 500,000,000 บาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 5,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 100 ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว
โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญเดิม จำนวน 100,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคา 10,000,000 บาท และบริษัทได้จดทะเบียนเป็นผู้ถือหุ้นของ SMT เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2558 และจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก จำนวน 4,900,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงินรวม 490,000,000 บาท ในวันที่ 30 มิถุนายน 2558 รวมจ่ายค่าตอบแทนเป็นเงินสดในการลงทุน SMT เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 500,000,000 บาท โดย SMT จะดำเนินงานด้านวางระบบและขยายเครือข่ายระบบงานคมนาคมและสายส่งไฟฟ้า
อย่างไรก็ดี คาดว่าบริษัทจะได้ธุรกิจที่คาดว่าจะมีศักยภาพในอนาคตเข้ามาเป็นการเพิ่มขอบเขตการดำเนินกิจการของบริษัทให้เพิ่มขึ้นและสามารถรับรู้รายได้และกำไรของ SMT เข้ามาในงบการเงินของบริษัทได้ในอนาคต
พร้อมกันนี้ยังกำหนดเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อย คือ บริษัท สมประสงค์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ SPS ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ซึ่งประกอบธุรกิจโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 รายละเอียดดังนี้
ทั้งนี้ บริษัทลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ SPS ซึ่งเดิมมีทุนจดทะเบียน 24,500,000 บาท ซึ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 245,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยได้เพิ่มทุนอีก 25,500,000 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนชำระแล้วจานวน 50,000,000 บาทซึ่งเป็นหุ้นสามัญจานวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทจะเข้าถือหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจโรงงานไฟฟ้าจากชีวมวลและธุรกิจบริหารจัดการขยะคือบริษัททรูเอ็นเนอร์จีเพาเวอร์ลพบุรีจำกัดโดยการเข้าถือหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้อีกจำนวน 150,000,000 บาทและบริษัทคลีนซิตี้จำกัดโดยการเข้าถือหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาตามมูลค่าที่ตราไว้อีกจำนวน 100,000,000 บาทเพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทย่อยดังกล่าว