WHA มั่นใจผลงาน H2/58 ดีขึ้นหลังรับรู้ HEMRAJ-ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น
WHA มั่นใจผลงาน H2/58 ดีกว่า H1/58 หลังรับรู้ HEMRAJ-ธุรกิจเข้าไฮซีซั่น คาดรายได้ปีนี้ราว 1.9 หมื่นลบ. โต 400% จากปี 57 เผยจะขายสินทรัพย์เข้า REIT รวม 7.2 พันลบ. คาดกองทุนต่างชาติแห่ลงทุนหลังเข้า SET50
นายแพทย์ สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งแรกปีนี้ เนื่องจากบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าซื้อกิจการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) หรือ HEMRAJ ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2/58
ขณะเดียวกันธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า อีกทั้งธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น พร้อมทั้งมีแผนขายสินทรัพย์เข้า REIT ในส่วนของบริษัทรวม 7.2 พันล้านบาท และของ HEMRAJ อีกกว่า 7 พันล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะไม่ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาทางการเงินของดีลการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท และ HEMRAJ ขณะที่ด้านรายรับจะรับรู้รายได้และกำไรเต็มไตรมาส นอกจากนี้ยังมีการขายสินทรัพย์เข้า REIT จำนวนมาก ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานะทางการเงินของบริษัท โดยบริษัทจะเร่งนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ ช่วยประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ ตามแผนคือเดือน ก.ย.นี้
โดยผลประกอบการโดยรวมของบริษัท คาดว่าเป็นไปตามเป้าหมาย คือมีรายได้ปีนี้เกือบ 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 400% จากปี 2557 ที่มีรายได้ 5.05 พันล้านบาท และกำไรสุทธิในปีนี้ จะเติบโตก้าวกระโดดจากปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 978.62 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจใน 4 ส่วนคือ รายได้จากค่าเช่า รายได้จากเงินปันผล และรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน และรายได้ที่สามารถรับรู้จากผลการดำเนินงานของ HEMARAJ
ขณะที่บริษัทมีแผนขายอาคารสำนักงานเข้า REIT ในมูลค่าประมาณ 2.4 พันล้านบาท, ขายสินทรัพย์โรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าของ HEMRAJ ในมูลค่ากว่า 7 พันล้านบาท และขายสินทรัพย์คลังสินค้าให้เช่าของ WHA ในมูลค่า 4.8 พันล้านบาท ทำให้บันทึกกำไรได้เพิ่มขึ้น
สำหรับธุรกิจพัฒนาและให้เช่าโครงการคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานในช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการของธุรกิจนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก ขณะที่ธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายมีผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงาน ประมาณ 75-80% ของพื้นที่ทั้งหมด 21,500 ตารางเมตร แต่คาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะมีผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานเพิ่มเป็น 90% ของพื้นที่ทั้งหมด
ส่วนการที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET50 SET100 และ SETHD สำหรับรอบครึ่งหลังของปี 58 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม) โดยหุ้นบริษัท ได้รับคัดเลือกให้เป็นหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 50 และ SET 100 นั้น จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศสนใจลงทุนในบริษัทได้มากขึ้น เพราะการเข้าคำนวณใน SET 50 ได้นั้น หมายถึงมาร์เก็ตแคป ของบริษัทมีขนาดใหญ่ขึ้น
ล่าสุดกองทุนต่างประเทศ ให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมั่นใจในศักยภาพธุรกิจและการบริหารงานที่มีความเป็นมืออาชีพ มีการเติบโตสูง มีความเสี่ยงต่ำ ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีกลุ่มฐานลูกค้าคุณภาพ และมีสภาพคล่องหุ้น หมุนเวียนตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ปัจจัยดังกล่าว ล้วนเป็นสิ่งดึงดูดให้กลุ่มนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในธุรกิจของบริษัท