หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดกังวลวิกฤตหนี้บีบกรีซพ้นยูโรโซน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่า ปัญหาหนี้สินของกรีซอาจจะส่งผลให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนได้เสร็จสิ้นลงโดยที่ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดวานนี้ (7 ก.ค.) ที่ 372.74 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,604.64 จุด ร่วงลง 106.90 จุด หรือ -2.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,676.78 จุด ดิ่งลง 213.85 จุด หรือ -1.96% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,432.21 จุด ลดลง 103.47 จุด หรือ -1.58%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นยุโรป รวมถึงการที่ชาวกรีซได้ลงประชามติโหวต ‘No’ เพื่อปฏิเสธเงื่อนไขที่กำหนดในมาตรการรัดเข็มขัดของเจ้าหนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน
ทั้งนี้ กรีซผิดนัดชำระหนี้จำนวน 1.6 พันล้านยูโรแก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา และกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระหนี้แก่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อีก 3.5 พันล้านยูโร หรือ 3.9 พันล้านดอลลาร์ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ซึ่งหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ครั้งนี้ ก็อาจทำให้ ECB ยกเลิกการจัดสรรวงเงินช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Liquidity Assistance (ELA) แก่ภาคธนาคารของกรีซ
ส่วนการประชุมรมว.คลังยูโรโซนได้เสร็จสิ้นลงในช่วงเช้าวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์โดยที่ยังไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ ขณะที่นายอเล็กซานเดอร์ สตับบ์ รมว.คลังฟินแลนด์กล่าวว่า เขาหวังว่ากรีซจะยื่นขอความช่วยเหลือครั้งใหม่ภายในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และหลังจากนั้น กรีซจะส่งรายละเอียดของมาตรการที่รัฐบาลจะดำเนินการเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น
หุ้นเทคนิป ร่วงลง 8.3% หลังจากบริษัทยอมรับว่าอาจจะต้องใช้จ่ายเงินสูงถึง 650 ล้านยูโรในการปรับโครงสร้างองค์กร, หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มรถยนต์ปรับตัวลงเช่นกัน