แนะช้อน 7 หุ้นเด็ด SET บ่ายบวกต่อ

SET ช่วงเช้ารีบาวด์ตามตลาดหุ้นภูมิภาคตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์ หลังผ่านวิกฤตจีนไปแล้ว-ปัญหากรีซมีแนวโน้มดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามผลประกอบการบริษัทใน Q2/58 ช่วงบ่ายหากตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวกอาจจะเห็นดัชนีปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวรับ 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 ถัดไป 1,500 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (10 ก.ค.) SET รีบาวด์เหมือนตลาดภูมิภาค ตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์สหลังผ่านวิกฤตของจีนไปแล้ว รวมถึงยังรับปัจจัยเชิงบวกจากการแก้ปัญหากรีซที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ยังต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/58 ว่าจะเป็นไปตามคาดหรือไม่

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ต้องจับตาว่าตลาดยุโรปจะอยู่ในแดนบวกได้หรือไม่ เพราะจะเป็นการบ่งชี้ทิศทางของปัญหากรีซ สำหรับตลาดหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 ถัดไป 1,500 จุด แนะนำซื้อ INTUCH-ADVANC-TRUE-TRUEIF-BBL-KBANK และ TISCO

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงดัชนีหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์เหมือนตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส หลังจากที่ผ่านสถานการณ์วิกฤตของจีนไปแล้ว ทำให้ตลาดฮั่งเส็งรีบาวด์ขึ้นมาราว 2% แต่ถือว่ายังเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงที่ปรับตัวลงไปแรง อย่างไรก็ตาม ตลาดรอติดตามวันที่ 12 ก.ค.ที่ทางกรีซจะเจรจากับเจ้าหนี้อีกครั้ง โดยคาดหวังผลในทางบวกมากกว่าทางลบ

สำหรับปัจจัยในประเทศช่วงนี้อยู่ระหว่าง preview งบไตรมาส 2/58 ซึ่งเท่าที่ออกมายังดูไม่ค่อยดีนัก แต่เป็นปัจจัยสำคัญของตลาดช่วงนี้ นอกจากนี้ ยังรอดูความช่วยเหลือจากภาครัฐในเรื่องภัยแล้งและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึงรอติดตามการเร่งใช้จ่ายงบของภาครัฐด้วย 

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ ตลาดหุ้นไทยยังต้องจับตาว่าตลาดยุโรปจะอยู่ในแดนบวกได้หรือไม่ เพราะจะเป็นการบ่งชี้ทิศทางของปัญหากรีซ พร้อมให้แนวรับ 1,460-1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,490 ถัดไปก็ 1,500 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.ค.) SET ฟื้นตัวเด่นตั้งแต่เปิดตลาด ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกเช้านี้ หลังกรีซยื่นแผนปฎิรูปนโยบายการคลังให้กับเจ้าหนี้ EU อีกครั้งหนึ่งเมื่อคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปจากเจ้าหนี้ EU ในวันอาทิตย์นี้ ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในเชิงเทคนิค จะเห็น Momentum การฟื้นตัวต่อเมื่อ SET สามารถยืนได้เหนือ 1,480 จุดวันนี้ ซึ่งจะมีเป้าหมายระยะสั้นไปที่ 1,495/1,515 จุด ตามลำดับ ขณะที่ Upside ที่มากกว่านั้นต้องรอการปรับสูงขึ้นเหนือ 1,515 จุด

ทั้งนี้ จากการเปรียบเทียบกลุ่มอุตสาหกรรมกับ SET ทั้ง 3 กลุ่มใหญ่จะเห็นว่ากลุ่มพลังงานที่แข็งแกร่งกว่าตลาดก่อนหน้านี้ เริ่มมีสัญญาณ “Underperform” ในกราฟระยะสัปดาห์ ขณะที่กลุ่มธนาคารแม้คาดการณ์กำไรในไตรมาส 2/58 ยังไม่ใช่จุดต่ำสุด และกลุ่มสื่อสารมีแนวโน้ม “Outperform” ตลาด ทำให้แนะนำ “ซื้อ” INTUCH-ADVANC-TRUE และ TRUEIF รวมไปถึง “เก็งกำไร” ในจังหวะ Rebound กลุ่มธนาคาร อย่าง BBL-KBANK และ TISCO ขณะที่กลุ่มพลังงาน แนะนำ “ขาย” PTTEP (พื้นฐาน 93 บาท) และลดสัดส่วนหุ้นกลุ่มโรงกลั่นอย่าง PTTGC-TOP

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.ค.) ว่าดัชนีหุ้นไทย SET ปิดช่วงเช้าบวกขึ้นมากตามภาพรวมทั้งโลกเป็นที่ส่วนมากอยู่แดนบวก โดยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกันตามตลาดหุ้นจีนที่รีบาวด์หลังร่วงอย่างแรงซึ่งรัฐบาลจีนเองได้ออกมาตรการต่างๆเพื่อพยุงตลาดไว้

นอกจากนี้ กรีซได้ยื่นแผนปฏิรูปหนี้ให้กับกลุ่มประเทศยูโรโซนแล้ว แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของแผน แต่แสดงให้เห็นว่ากรีซคงไม่ผิดนัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ และกรีซยังไม่อยากออกการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งกลุ่มเจ้าหนี้ต่างต้องการให้กรีซลดเงินบำนาญและปฏิรูปการจัดเก็บภาษีแลกกับแผนช่วยเหลือ ติดตามการประชุมผู้นำประเทศอียูทั้ง 28 ประเทศในวันอาทิตย์ที่12ก.ค. นี้

สำหรับปัจจัยบวกไทยคือการขยายตัวภาคการท่องเที่ยวและการเบิกจ่ายภาครัฐ แม้หอการค้าไทยคาดภัยแล้งส่งผลต่อจีดีพีลดลง 0.52% ปรับประมาณการปีนี้โตแค่ 3% ราคาน้ำมันก็ได้ดีดขึ้น น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกระทรวงการคลังเตรียมขาดดุลมากขึ้นเป็น 4% หากจีนส่งผลกระทบยาวถึงปีหน้า จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์หน้า

แนวโน้มตลาดภาคบ่าย หลังดัชนีช่วงเช้าเปิดตัวเบรคผ่านกรอบ Falling Wedges ถือเป็นสัญญาณดี มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดของวันที่ 1,486 อีกครั้ง

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,262.77 ล้านบาท ปิดที่ 338.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,098.98 ล้านบาท ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 921.37 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 688.35 ล้านบาท ปิดที่ 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

KTB มูลค่าการซื้อขาย 563.59 ล้านบาท ปิดที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button