คว้าน้ำเหลว !โมนิก้าและทีมงาน

*สิ่งที่เซียนหลายสำนักรู้สึกผิดหวังกันอย่างถ้วนหน้า คงเป็นอาการง่อยเปลี้ยเพลียแรงของหุ้นแบงก์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รีบาวด์อย่างแข็งแกร่ง แต่เผลอแป๊บเดียวหุ้นอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องยอมหักธงด้ามเก่าทิ้ง พร้อมกับหยิบธงด้ามใหม่ขึ้นมาฟันธงในทันทีว่า รอบนี้ต้องไวไว้ก่อน เรื่องอื่นไว้เคลียร์ทีหลัง เพราะจุดจบของวันนี้ มักเป็นจุดเริ่มต้นของวันถัดไปนะจะบอกให้


*สิ่งที่เซียนหลายสำนักรู้สึกผิดหวังกันอย่างถ้วนหน้า คงเป็นอาการง่อยเปลี้ยเพลียแรงของหุ้นแบงก์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้รีบาวด์อย่างแข็งแกร่ง แต่เผลอแป๊บเดียวหุ้นอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงกับต้องยอมหักธงด้ามเก่าทิ้ง พร้อมกับหยิบธงด้ามใหม่ขึ้นมาฟันธงในทันทีว่า รอบนี้ต้องไวไว้ก่อน เรื่องอื่นไว้เคลียร์ทีหลัง เพราะจุดจบของวันนี้ มักเป็นจุดเริ่มต้นของวันถัดไปนะจะบอกให้

*เนื่องจากอีกหนึ่งแรงกดดันที่จะถาโถมใส่ตลาดหุ้นไทยในระลอกถัดไปคงหนีไม่พ้นสถานการณ์ของหุ้นพลังงานที่นับวันจะโรยราลงเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากกำลังการผลิตในตลาดโลกมีมากเกินไป จนทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถือเป็นผลกระทบที่หนักหนาสาหัสเอาการ และทำให้หุ้นกลุ่มนี้หาทางกลับบ้านไม่เจออีกพักใหญ่ๆ เจ้าค่ะ

*นั่นเป็นการตอกย้ำว่า สภาพโดยรวมของตลาดหุ้นไทยจะไม่แจ่มจรัสอีกต่อไป ไซเคิลของดัชนีส่อไปในทางภูเขา 3 ลูก ในทิศทางขาลง คนเล่นหุ้นใหญ่จะพบกับอาการคว้าน้ำเหลวบ่อยขึ้น เพราะหุ้นที่เด้งขึ้นแรงเที่ยวนี้ เป็นอาการของแมวชักกระตุกก่อนตาย “โมนิก้า” ไม่จำเป็นต้องไปขุดข่าวดีมาโปรโมตให้เปลืองแรง หลังตลาดหุ้นถูกรุมล้อมด้วยข่าวร้ายไม่เว้นในแต่ละวันไงล่ะค่ะ

*บวกกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันยังรู้สึกกระวนกระวายใจต่อเรื่องต่างๆ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นได้แค่แว้บๆ  บวกกับเมื่อมองอะไรดีๆ ขึ้นมาทีไร มันไม่เคยเป็นเหมือนกับที่คาดคะเนสักครั้ง วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปเฉพาะหุ้นที่มีข่าวดีเข้ามาจริงๆ ซึ่งเหมือนกับการกระโจนเข้าใส่หุ้นรับเหมา มันคือรูปธรรมที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นผลพวงจาก รัฐบวม..อุ๊ย..รัฐบาล เคาะงบลงทุนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทางมูลค่า 1.60 แสนล้านบาทเจ้าค่ะ

*ตัวที่น่ามองสุดๆ ในจังหวะนี้ คงหนีไม่พ้น STEC เพราะมีวอลุ่มอัดแน่นเข้ามาตลอดทั้งวัน จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 23.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท  จึงมีลุ้นขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 25 บาทอีกรอบ หากผ่านไปได้แบบชิวๆ รอบนี้มองได้ถึง 28 บาท เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงปลายปี 57 ส่วนจะทำได้ไหม..อันนี้ต้องติดตามดูกันต่อไปนะจ๊ะ

*ส่วนในรายของ UNIQ สร้างปรากฏการณ์การ all time new high ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า และมีแนวโน้มที่จะทำให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่เหมาะสำหรับพวกที่เน้นลงทุนระยะยาว ส่วนพวกที่เน้นสั้นๆ ต้องกระโจนเข้าใส่ให้ทัน ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.60 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 6.30% หากเทียบกับช่วงต้นปี 58 หุ้นอยู่แถวๆ 12 บาท ให้รีเทิร์น 50% ภายใน 6 เดือน แหล่มไหมค่ะ

*ไหนๆ เกริ่นนำด้วยพวก “ขาสั้น คอซอง” ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดูในตำนานที่ทำให้หลายคนเจ๊งไม่เป็นท่ากันเลยดีกว่า เพราะทันทีที่เห็นหุ้น PAF กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.12 บาท บวกไป 0.44 บาท หรือขึ้นไป 12% ด้วยมูลค่า 500 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนนึกถึงเหตุการณ์ 3 ครั้งที่พาคนไปอยู่บนดอย 7 บาทครั้งหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีก 2 ครั้งบนดอยที่ 4.50 บาท และอย่าลืมว่า เคยทุบหุ้นลงมาถึง 2.50 บาทเสียด้วย ก็ลองไปคิดกันเอาเองว่า โอกาสซ้ำรอยเหมือนในอดีตแค่ไหนเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ อย่าง LIVE เป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ไม่ค่อยปลาบปลื้มสักเท่าไหร่ ?  แผนฟื้นฟูกิจการให้กลับมาทำกำไรอย่างถาวร กลายเป็นเรื่องฝันลมๆ แล้งๆ ตอนกลางวันแสกๆ  บวกกับทุกคนในวงการฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหกว่า เสี่ย ส. มีเอี่ยวกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 0.60 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 320 ล้านบาท ไม่ใช่เรื่องธรรมดานะจะบอกให้

*เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ NDR อย่างไรอย่างนั้นเลย จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 1.22 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 930 ล้านบาท แถมเป็นการหมุนหุ้นเล่นทั้งหมด 3 รอบใหญ่ๆ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องพิจารณาให้ดีเป็นพิเศษ เพราะเมื่อเดือนเม.ย. 58 เพิ่งดันหุ้นขึ้นไป 5.65 บาท ต่อจากนั้นปล่อยให้รูดลงมายืนอยู่ที่ 3.50 บาท มันโหดไปไหมจ๊ะ

*สถานการณ์ตรงนี้เหมือนกับ THANA ไม่มีผิดเพี้ยน แพลทฟอร์มของหุ้นไม่มีอะไรมาการันตี บวกกับปัจจัยพื้นฐานสุดแสนจะอ่อนยวบ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกมึนงงกับการเล่นรอบที่ 3 ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อหัวเชื้อเรื่องเทกโอเวอร์กิจการถูกปฏิเสธไปแล้ว จึงไม่รู้ว่า เที่ยวนี้ขุดเรื่องอะไรขึ้นมาเล่นอีก หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 3.96 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยวอลุ่มที่อัดแน่นสุดๆ พะยะค่ะ

*ในรายของ TAPAC ไม่มีอะไรต่างจากรายข้างต้นมากนัก เพียงแต่มุกที่เอามาเล่นเที่ยวนี้ มันเป็นเรื่องการเทิร์นอะราวด์เพียวๆ จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากขาโจ๋หุ้นต่ำสิบ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.15 บาท บวกไป  0.71 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 90 ล้านบาท แถมเป็นการทำ new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นแบบนี้..น่าตามไปดูนะจะบอกให้

*ป.ล.การลงทุนวันนี้กว่าจะได้เนื้อได้หนัง ต้องอาศัยความกล้าเป็นที่ตั้ง..หากไม่กล้าก็กินแห้วกระป๋องไปก่อนพรางๆ นะตัวเอง

Back to top button