DELTA คาดผลงานครึ่งหลังปีนี้ดีขึ้น-ซื้อชู 3 ปัจจัยหนุนการโตใน 3-5 ปี ข้างหน้า

DELTA แม้ว่าผลการดำเนินงานในรอบครึ่งแรกปี 58 ได้อ่อนลง แต่คาดว่าในงวดครึ่งหลังปี 58 จะมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น แรงผลักดันจะมาจากยอดขายที่อินเดีย รวมทั้งยอดขายจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ชู 3 ปัจจัยเด่นหนุนการโตใน 3-5 ปี ข้างหน้า แนะถือเป้าหมาย 88 บาท


บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (17 ก.ค. ) ว่า บริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิกส์ประเภททั้งการออกแบบและผลิต ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่เป็น Power Supply มีสัดส่วนเป็น 85% คาดว่ายอดขายปีนี้จะมีอัตราการเติบโต 5-10% หรือ 60-140 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมาจากสินค้า ODM ของ data center และอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้กับ 4G ที่ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ จากอินเดีย 50 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขายที่มาจากกลุ่ม Daimler (เมอร์ซิเดส, โฟคสวาเกน, เรโนลท์ และ ปอร์เช่ย์) 30 ล้านเหรียญสหรัฐ

แม้ว่าผลการดำเนินงานในรอบครึ่งแรกปี 58 ได้อ่อนลง แต่คาดว่าในงวดครึ่งหลังปี 58 จะมีแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น แรงผลักดันจะมาจากยอดขายที่อินเดีย รวมทั้งยอดขายจากอุตสาหกรรมยานยนต์

สำหรับแรงผลักดันการเติบโตของกลุ่ม DELTA ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าคือ

– Data Center: คาดว่าลูกค้า ODM จะเพิ่มขึ้น, มาตฐานการให้บริการที่สูงขึ้นสำหรับลูกค้าในปัจจุบัน รวมทั้งแนะนำการเชื่อมระบบ Hardware ใหม่ๆเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคแถบนี้

– สื่อสาร: สนับสนุนเทคโนโลยีสำหรับ 4G/5G และขยายตลาดในภูมิภาคแถบนี้ นอกจากนี้ยานยนต์: มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจาก กลุ่ม Daimler รวมทั้งแนะนำสินค้าใหม่ๆในพอร์ตฟอลิโอ จากปัจจุบันที่มี 4 สินค้า เพิ่มเป็น 20 สินค้าภายใน 3 ปี

– แนวโน้มค่าเงินเหรียญสหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจะช่วยดึงให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น ส่วนค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงจะช่วยลดค่าใช้จ่าย R&D ดังนั้นอัตรากำไรจากการดำเนินงานก็จะสูงขึ้น

ด้านผลขาดทุนจากธุรกิจใหม่ๆ คาดว่าจะทยอยน้อยลง ธุรกิจใหม่ๆ เช่น Solar Inverter, wind turbine, ยานยนต์ และการขยายสำนักงานใหม่ๆไปยังภูมิภาค

สำหรับความเสี่ยงหลักๆในปีนี้ที่นักลงทุนถามถึง ทางบริษัทชี้แจงว่าจะเป็น 1) อัตรากำไรขั้นต้นของโรงงานแห่งใหม่ที่ผลิตสินค้าให้อุตสาหกรรมยานยนต์อาจจะต่ำกว่า 30% และ 2) คำถามที่ว่าเมื่อใดที่ DELTA จะออกสินค้าที่เป็น wireless charger สำหรับรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้า (EV) ปรากฎว่าทางบริษัทกำลังรอพิจารณาเทคโนโลยีที่ตลาดยอมรับก่อนแล้วจึงจะผลิตสินค้าออกมาให้สอดคล้องกัน ซึ่งรถยนต์แบบนี้ในยุโรปได้ฟื้นตัวขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทเองมีความมั่นใจว่าจะออกสินค้าใหม่มารองรับธุรกิจนี้อย่างแน่นอนภายใน 2-3 ปีนี้

 

Back to top button