ราคาทองปิดร่วงต่อเนื่องคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 8 วันทำการ เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 25.1 ดอลลาร์ หรือ 2.22% ปิดที่ระดับ 1,106.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 7.6 เซนต์ ปิดที่ 14.758 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 12.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 988.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 6.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 612.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำและหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์
ทั้งนี้ เฟดไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมานับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.นี้
นอกเหนือจากกระแสคาดการณ์เรื่องเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยลบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับขึ้น 0.03% แตะที่ 97.96% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ