KTAM ออกกองตราสารหนี้ KTFF115 อายุ 6 เดือนชูผลตอบแทน 1.50% เสนอขาย 28 ก.ย.-4 ต.ค.นี้
บลจ.กรุงไทยออกกองตราสารหนี้ KTFF115 อายุ 6 เดือน ชูผลตอบแทน 1.50% ต่อปี เสนอขาย 28 ก.ย.-4 ต.ค.นี้
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 115 (KTFF115) อายุ 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน-4 ตุลาคม 2559 อายุ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ Bank of China (Macau),PT BANK RAKYAT INDONESIA (PERSERO) Tbk,Agricultural Bank of CHINA,Ahli Bank QSC และตั๋วเงินคลัง Emirates NBD PJSC ผลตอบแทนประมาณ 1.50% ต่อปี
โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศโดยรวมปรับตัวลดลงตามเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรหลังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมโดยตลาดคาดว่าปีนี้จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว ในขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ -0.10% ต่อปี แต่พร้อมจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้ติดลบมากขึ้นหากจำเป็น โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิจำนวน 25,789 ล้านบาท
ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุโดยเฉพาะในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวหลัง FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25%-0.50% ต่อปี ในขณะที่ตลาดมุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังใกล้เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. มาอยู่ที่ 0.75% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 5 bps. มาอยู่ที่ 1.16% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 8 bps.มาอยู่ที่ 1.62% ต่อปี
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้จะเป็นแนวโน้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจโลก แนวโน้มราคาน้ำมัน ผลกระทบของ Brexit ต่อสหภาพยุโรป (EU) และสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในประเทศ จะเป็นปริมาณการออกพันธบัตรในไตรมาส 1 ของปีงบประมาณ 2560 ความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ