KSAM เสนอขายกองทุนKFFAI6M7ประมาณการณ์ผลตอบแทน2.50%
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M7 (KFFAI6M7) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.50% ต่อปี
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ KSAM เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ต่างประเทศเอไอ 6M7 (KFFAI6M7) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 24 – 30 มีนาคม 2558 เหมาะกับนักลงทุนที่มิใช่รายย่อยและผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ลงทุนขั้นต่ำ 510,000 บาท ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.50% ต่อปี
โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 12% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Akbank T.A.S. (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Isbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Vakifbank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22% และตราสารหนี้ GMTN ออกโดยธนาคาร Yapi Kredit bank (ตุรกี) สัดส่วนการลงทุน 22%
ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.50% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”
สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น ธนาคารกลางสวีเดนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ -0.25% จาก -0.10% และระบุว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นล้านสวีดิชโครนจากเดิมที่1หมื่นล้านสวีดิชโครน เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าเงินโครนแข็งค่ามากไปกว่านี้รวมทั้งป้องกันปัญหาเงินฝืด ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงนโยบายการเงินไว้ดังเดิม และแสดงความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับเป็นขาขึ้นในช่วงถัดไปภายในปีนี้ ถึงแม้จะคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ประมาณ 0% ในช่วงหลายเดือนข้างหน้าก็ตาม ทางด้านธปท.ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงสู่ขยายตัว 3.8% จากเดิมคาดโต 4.0% และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ 0.2% และคาดว่าการส่งออกจะขยายตัว 0.8%
สำหรับอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐฯลดลง 0.00 – 0.15% โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะยาวลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้น ในส่วนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลง 0.00 – 0.05% โดยที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว
