KAsset ปันผล 2 กองทุน 28 ก.ย.นี้
KAsset ปันผล 2 กองทุน “ABPIF”-“WHAPF” พร้อมกันในวันที่ 28 ก.ย.นี้
นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ. กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ครั้งที่ 8 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2560 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนวันที่ 19 กันยายน 2560 (XD Date) ในอัตรา 0.2539 บาทต่อหน่วย
พร้อมกันนี้กองทุนได้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนของกองทุนรวม ครั้งที่ 8 และจะจ่ายคืนผลตอบแทนส่วนลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตรา 0.3650 บาทต่อหน่วย ทำให้ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งในส่วนเงินปันผลและเงินลดทุน รวมเป็นอัตรา 0.6189 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 371.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่นักลงทุนได้รับโดยเฉลี่ยที่ 6.98% ของมูลค่าที่ตราไว้ (PAR)
โดยหลังจากการลดทุนครั้งนี้ มูลค่าทุนจดทะเบียนของกองทุนจะอยู่ที่ 6.9721 บาทต่อหน่วย โดยกองทุน ABPIF มีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมคืนเงินลดทุนในวันที่ 28 กันยายน 2560
นอกจากนี้ยังเตรียมจ่ายปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) ครั้งที่ 26 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2560 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนของวันที่ 19 กันยายน 2560 (XD Date) ในอัตรา 0.1800 บาทต่อหน่วย รวมมูลค่าการจ่ายเงินปันผลกว่า 169.03 ล้านบาท โดยกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 28 กันยายน 2560
“กองทุน ABPIF เป็นการลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร
ทั้งนี้ ในรอบผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรก ปี 2560 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2560) กองทุน ABPIF มีกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วรวมเป็นมูลค่า 152.39 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.2540 บาทต่อหน่วยลงทุน
ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 8 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2.9050 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ประมาณ 7.89% ต่อปี”นายวิทวัส กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน WHAPF ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2553 เป็นต้นมา ซึ่งหากนับรวมการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ด้วย กองทุน WHAPF มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 26 ครั้ง เป็นอัตรารวมทั้งสิ้น 4.6111 บาทต่อหน่วย
โดยสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ประมาณ 6.97% ต่อปี อย่างไรก็ตามสำหรับผลการดำเนินงานในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2560) กองทุนยังคงมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าของอาคาร คลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ
ในปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน 14 โครงการ อาทิ โครงการคลังสินค้า Kao 1 , Kao 2 และ Kao 3, โครงการอาคารคลังสินค้า DKSH จำนวน 7 โครงการซึ่งตั้งอยู่ที่บางพลี บางปะอิน และบริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม.20, โครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.19
รวมทั้งโครงการศูนย์กระจายสินค้า WHA Mega Logistics Center บริเวณ อ.พานทอง จ.ชลบุรี, โครงการ DSG 1 และ 2 ในเขตประกอบการเหมราช จ.สระบุรี และยังมีโครงการโรงงานอีก 3 โครงการ คือ โครงการโรงงาน Primus และโครงการโรงงาน Ducati 1 และ 2 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ. ระยอง
โดยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม แฟคทอรี่แอนด์แวร์เฮ้าส์ ฟันด์ (WHAPF) จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย