KTAM ขาย 2 กองทุนใหม่ ถึง 31 ต.ค.นี้
KTAM ออกกองตราสารหนี้ ตปท. 6 และ 12 เดือน เสนอขายวันนี้ถึง 31 ต.ค.
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ประกอบด้วย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 170 (KTFF170) และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 175 (KTFF 175) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ต.ค.60 เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่า 80%
โดยกองทุน KTFF170 อายุโครงการ 6 เดือน ลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China , Agricultural Bank of China ,บัตรเงินฝาก China Construction Bank , Bank of Communications , Industrial and Commercial Bank of China Ltd. ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC 5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.20%ต่อปี
ส่วนกองทุน KTFF175 อายุโครงการ 12 เดือน ลงทุนในบัตรเงินฝาก Bank of China ,เงินฝากประจำ Agricultural Bank of China ,บัตรเงินฝาก China Construction Bank , บัตรเงินฝาก Bank of Communications , เงินฝากประจำ Union National Bnak PJSC ในสัดส่วนสถาบันการเงินละ 19% และเงินฝากประจำ Abu Dhabi Commercial Bank PJSC 5% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผลตอบแทนประมาณ 1.40%ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวลดลงทุกช่วงอายุตามแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศ เนื่องจากตลาดมีการตอบรับการประมูลพันธบัตรอายุคงเหลือ 10 ปี (LB26DA) ค่อนข้างดี
โดยมี Bid Coverage Ratio 3.82 เท่า นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 2,125 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐ (Fed)ในช่วงเดือนธันวาคม โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.51% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี อยู่ที่ 1.91% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี อยู่ที่ 2.28% ต่อปี
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) ครั้งที่ 22 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2560 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 และปิดสมุดทะเบียน ในวันที่ 30 ตุลาคม 2560 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 อัตรา 0.2150 บาทต่อหน่วย
ทั้งนี้กองทุน TLGF มีนโยบายลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งประกอบด้วยศูนย์การค้าเทสโก้ โลตัส ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดี อยู่ในย่านธุรกิจ รวมจำนวน 23 แห่ง โดยกองทุนจะจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ โดยการนำอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวออกให้เช่า หรือให้เช่าช่วง เพื่อมุ่งก่อให้เกิดรายได้และผลตอบแทนแก่กองทุนรวมและผู้ถือหน่วยลงทุน