SCBAM ทุ่มกว่าพันลบ. ปันผลกองอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน
SCBAM ทุ่มกว่า 1 พันลบ. จ่ายปันผลกองอสังหาฯ-โครงสร้างพื้นฐาน
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) เปิดเผยถึงภาพรวมผลดำเนินงานกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ สำหรับการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2560 ว่า ยังมีผลงานที่น่าพอใจและสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯ เตรียมจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานในช่วงเวลาดังกล่าวให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนรวมทั้งสิ้น 7 กองทุน นอกจากนี้ยังมีการจ่ายเงินลดทุนอีก 1 กองทุนสำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน- 30 กันยายน 2560 และกำไรสะสม รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าประมาณ 1,061.20 ล้านบาท ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560
ทั้งนี้ประกอบด้วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2420 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายปันผล 3.5704 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557) กองทุนอสังหาฯประเภทศูนย์การค้า คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ลงทุนในโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา 4 ทำเล คือ พระราม 2 พระราม 3 ปิ่นเกล้า และเชียงใหม่ แอร์พอร์ต จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2879 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล 12.3940 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายเงินปันผลครั้งแรก 6 มี.ค.2549)
ส่วนกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1930 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล 3.3007 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 2556)
สำหรับกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน จำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN คอมเมอร์เชียล โกรท (CPNCG) ที่ลงทุนในอาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2448 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล4.3106 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 14 ก.พ. 2556)
พร้อมทั้งกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2414 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล 6.6831 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 7 ก.ย. 2554)
รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1450 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล 2.0697 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 28 ส.ค.2557)
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า มีจำนวน 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.1809 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผล 2.6255 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 24 พ.ย. 2557)
ขณะที่กองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม 1 กองทุน คือ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ที่ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา จะจ่ายคืนเงินลดทุนในอัตรา 0.0826 บาทต่อหน่วย
สำหรับกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) บริษัทจัดการจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานดังกล่าวรวมกับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึงวันที่ 31ตุลาคม 2560
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับการแปลงสภาพจากกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรทเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) ตามที่ประชุมได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 โดยจะได้แจ้งให้ทราบต่อไป