KAsset โชว์ยอดขายกอง RMF ปี 60 โต 15%
KAsset โชว์ยอดขายกอง RMF ปี 60 โต 15% เผยลูกค้าซื้อผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มขึ้น
นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด หรือ บลจ.กสิกรไทย (KAsset) เปิดเผยว่า กองทุน LTF และ RMF ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ.กสิกรไทยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุน RMF ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งมียอดเงินลงทุนใหม่ในปี 2560 เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงกว่าอุตสาหกรรมซึ่งเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 12%
ทั้งนี้เนื่องมาจากกองทุน RMF ของบลจ.กสิกรไทยที่มีนโยบายการลงทุนในเลือกหลากหลายรวมทั้งสิ้น 15 กองทุน ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับมีหลายกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าสนใจ นอกจากนี้พบว่าลูกค้ามีการลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น อาทิ App K PLUS และ App K-My Funds
โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน LTF/RMF ผ่านช่องทางดิจิตอลคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 52% โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 32% เทียบจากจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่ลงทุนในกองทุน LTF/RMF กสิกรไทย
“สำหรับกองทุน LTF ของบลจ.กสิกรไทยที่มียอดขายสูงสุดในปี 2560 ที่ผ่านมา ได้แก่ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ที่มีนโยบายเน้นการคัดเลือกหุ้นเด่นที่มีศักยภาพสูงไม่เกิน 20 ตัว ส่วนกองทุน RMF ของบลจ.กสิกรไทยที่มียอดขายสูงสุดในปี 2560 ได้แก่ กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ด้านผลการดำเนินงานกองทุน K20SLTF มีความโดดเด่นโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ซึ่งให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.16% ต่อปี โดยติดเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของกลุ่มกองทุน LTF ทั้งหมดในอุตสาหกรรมซึ่งมีอยู่ประมาณ 76 กอง ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 16.99% ต่อปี (ที่มา Morningstar(R) ณ 29 ธ.ค. 60)
ด้านกองทุน KMSRMF สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 1 ปี สูงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่ม RMF หุ้นไทยทั้งหมดในอุตสาหกรรม โดยให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 27.58% ต่อปี ส่วนผลดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 19.67% (ที่มา Morningstar(R) ณ 29 ธ.ค. 60)” นางสาวยุพาวดีกล่าว
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน LTF/RMF เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในระยะยาว พร้อมทั้งต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากการพิจารณาถึงผลการดำเนินงานย้อนหลังที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมแล้ว ผู้ลงทุนควรให้ความสำคัญกับการวางแผนลงทุนในกองทุน LTF/RMF ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ในช่วงต้นปีด้วย
ทั้งนี้เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีกว่าการไปรอซื้อเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ซึ่งส่วนใหญ่ดัชนีหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นไปสูง ทั้งนี้บลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปี 2561 ว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุน LTF/RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย
โดยอาจอาศัยจังหวะทยอยเข้าซื้อสะสมในระหว่างปีเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ ส่วนผู้ลงทุนที่ถือครองครบกำหนดเงื่อนไขแล้ว หากยังไม่มีแผนใช้เงิน แนะนำให้ถือต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน เนื่องจากตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังมีทิศทางที่ดีและมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน
อีกทั้งจากข้อมูลพบว่าหากลงทุนในตลาดหุ้นได้ระยะยาวจะยิ่งให้ผลตอบแทนที่ดี โดย 10 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ของนักลงทุนที่ถือครอง LTF ครบเงื่อนไข 5 ปีปฏิทิน ในภาพรวมของอุตสาหกรรม ผลตอบแทนรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ 29% หรือเฉลี่ย 8.8% ต่อปี (ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ ตั้งแต่สิ้นปี 2557 – 3 ม.ค. 2561)
นอกจากนี้สำหรับลูกค้าที่ซื้อกองทุน LTF/RMF กสิกรไทยในปีที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทยได้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าโดยการจัดส่งเอกสารหนังสือรับรองการซื้อ LTF/RMF เพื่อใช้ประกอบการยื่นภาษีประจำปี 2560 โดยมีการจัดส่งเอกสารผ่านทางไปรษณีย์
รวมถึงจัดส่งผ่านทางอีเมล์ให้กับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ K-Mutual Fund e-News & Report นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการดาวน์โหลดเอกสารผ่านทางเว็บไซต์ของบลจ.กสิกรไทย โดยเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่ www.kasikornasset.com ซึ่งบลจ.กสิกรไทยถือเป็นบลจ.แห่งแรกที่มีการริเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดหนังสือรับรอง LTF/RMF ผ่านทางเว็บไซต์