KTB ยกระดับโมบายแบงกิ้ง ขับเคลื่อนสู่สังคมไร้เงินสด
KTB ยกระดับโมบายแบงกิ้งสู่ "กรุงไทย NEXT" เพิ่มความสะดวกโอน-เติม-จ่าย ขับเคลื่อนสู่สังคมไร้เงินสด
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นในการยกระดับความเป็นอยู่และพฤติกรรมการทำธุรกรรมของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาคให้สะดวกสบาย ผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของภาครัฐที่ต้องการวางโครงสร้างพื้นฐานอิเล็กทรอนิกส์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และขับเคลื่อนสังคมไทยทุกภาคส่วนสู่สังคมไร้เงินสด จึงได้ประกาศยุทธศาสตร์ดิจิทัลสู่การเป็นธนาคารแรกในประเทศไทยที่จะก้าวสู่ Invisible Banking อย่างเต็มตัว โดยวางโพสิชันของกรุงไทยเป็น “ธุรกรรมในอากาศ” ติดตัวและเคลื่อนที่ไปกับลูกค้าทุกที่ เคียงข้างผู้บริโภคในการทำธุรกรรมทุกที่ทุกเวลา
โดยหนึ่งในก้าวสำคัญของการเป็น Invisible Banking คือการพลิกโฉม Mobile Banking ที่ครบวงจร ครบครัน และสมบูรณ์มากขึ้น โดยทุ่มงบ 10,000 ล้านบาท เปิดตัวแอพฯ “กรุงไทย NEXT” ที่มอบความสะดวกสบาย รวดเร็ว ปลอดภัย พร้อมให้บริการธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทยให้ประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ สามารถ โอน-เติม-จ่าย ครอบคลุมที่สุด เชื่อมต่อในทุกๆ ด้าน ตอบโจทย์ทุกความต้องการอย่างครบวงจรภายในแอพฯเดียว “กรุงไทย NEXT”
ทั้งนี้ในปัจจุบันธนาคารกรุงไทยมีฐานลูกค้ากว่า 30 ล้านบัญชีทั่วประเทศ มีกลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking มากกว่า 5 ล้านราย เมื่อเปิดตัวแอพฯ “กรุงไทย NEXT” พร้อมด้วยจุดเด่นโอนมั่นใจ-เติมสะดวก-จ่ายครอบคลุม และกิจกรรมทางการตลาดเชิงรุก โดยเน้นจัดกิจกรรมทางการตลาดในชุมชน จะทำให้ประชาชนไทยมีชีวิตที่สะดวกสบายด้วยบริการการทำธุรกรรมการเงินที่ครบวงจร และหันมานิยมใช้ “กรุงไทย NEXT” มากขึ้น โดยคาดว่าจะมีผู้ใช้งาน 10 ล้านคนภายในปี 2562 ทั้งยังขยายฐานกลุ่มผู้ใช้งาน Mobile Banking ในภาพรวมของประเทศไทยให้เติบโตต่อไปในอนาคต
ด้านนายจักรกฤษณ์ กลิ่นสมิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ KTB กล่าวว่า แอพพลิเคชัน “กรุงไทย NEXT” คืออีกขั้นของ Mobile Banking ซึ่งเป็นการต่อยอดจาก KTB netbank และพัฒนายกระดับสู่ แอพฯ “กรุงไทย NEXT” ที่ตอบโจทย์ 3 ปัจจัย ได้แก่ 1. Platform ใหม่ เป็นแบบ Micro Service ส่งผลให้การทำงานของแอพฯ รวดเร็วขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ซับซ้อน 2. Product มีความปลอดภัยและเสถียรมาก 3. Process ในการจ่ายค่าบริการที่ครอบคลุมที่สุด
โดยกรุงไทย NEXT โฉมใหม่นี้ มีศักยภาพที่ดีกว่าเดิมในทุกมิติ เพราะมีการปรับเปลี่ยนระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งระบบ Backend และ Frontend ให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในการทำธุรกรรมยิ่งกว่าเคย โดยแอพฯ “กรุงไทย NEXT” มีการปรับโฉม User Interface ให้เป็นสีฟ้าสวยสดใส ใช้งานง่าย ลดขั้นตอนการใช้งาน โดยดึงฟังก์ชั่นโอน เติม จ่าย มาไว้ที่หน้าแรก ให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานจริง
สำหรับจุดเด่นของ “กรุงไทย NEXT” ประกอบไปด้วยฟีเจอร์หลัก คือ 1.โอนเงิน ที่ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งโอนข้ามเขตและโอนต่างธนาคาร พร้อมยกระดับความปลอดภัยมั่นใจทุกครั้งที่โอน 2.เติมเงิน ที่ผู้ใช้สามารถเติมเงินค่าโทรศัพท์เอไอเอส, ทรู, ดีแทค, My By CAT, Easy Pass และ M-PASS
รวมทั้ง 3.จ่ายเงิน ที่มีเน็ตเวิร์คการทำธุรกรรมการเงินที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย ทั้งช่องทางภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้านครหลวง, การไฟฟ้าภูมิภาค, การประปานครหลวง, การประปาภูมิภาค (การไฟฟ้าภูมิภาคและการประปาภูมิภาคจ่ายได้ต้นเดือนพฤศจิกายนนี้) ค่าบริการโทรศัพท์มือถือ, บริการรับชำระค่าปรับจราจร กรมขนส่ง, กรมธนารักษ์, กรมสรรพสามิต, ชำระหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), กสท โทรคมนาคม และบริการอื่นๆ อีกมากมาย จึงทำให้ “กรุงไทย NEXT” เป็น Mobile Banking ที่ให้ชีวิตคนไทยทุกภาคส่วนเชื่อมต่อกันอย่างสะดวกสบาย ง่ายดาย ครบจบในแอพฯ เดียว
นอกจากฟังก์ชั่น โอน-เติม-จ่าย ที่ทำให้ผู้บริโภคสะดวกสบายยิ่งกว่าเคยแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถเพลิดเพลินกับฟีเจอร์เสริมต่างๆ ของแอพฯ “กรุงไทย NEXT” ที่หาที่อื่นไม่ได้ อาทิ Krungthai Travel Card ฟีเจอร์แรกและฟีเจอร์เดียวที่ลูกค้าสามารถแลกเงินตราต่างประเทศผ่านแอพฯ กรุงไทย NEXT ด้วยตนเองเก็บไว้ได้ก่อนการเดินทางในอัตราที่พิเศษกว่าในท้องตลาดได้ถึง 10 สกุลเงิน ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ, ยูโร, ปอนด์, เงินเยน, ดอลลาร์ฮ่องกง, ดอลลาร์ออสเตรเลีย, ดอลลาร์สิงคโปร์, ดอลลาร์แคนาดา, ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และฟรังก์สวิส ให้นักท่องเที่ยวสะดวกสบาย ไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมากขณะเดินทางไปต่างประเทศ ลดความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม พร้อมดูอัตราแลกเปลี่ยนและแลกเงินเพิ่มเติมได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อกลับประเทศไทยสามารถแลกเป็นเงินไทยกลับมาในอัตราที่ดี ไม่มีทั้งค่าธรรมเนียมแลกเงินและค่าธรรมเนียมรูดบัตรอีกด้วย
พร้อมกันนี้ กรุงไทย NEXT ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง e-Donation หรือ “กรุงไทย เติมบุญ” ที่ผู้ใช้งานสามารถบริจาคเงินได้สะดวกและปลอดภัยให้กับหน่วยงานรับบริจาคมากที่สุด ครอบคลุมวัด โรงพยาบาล มูลนิธิ สถานศึกษา มัสยิด และองค์กรสาธารณกุศล กว่า 7,000 แห่งทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รับใบอนุโมทนาบุญอิเล็กทรอนิกส์ได้ทันที พร้อมส่งข้อมูลการบริจาคให้กรมสรรพากรสำหรับการลดหย่อนภาษีอีกด้วย
อีกทั้ง “กรุงไทย NEXT” ยังมีฟีเจอร์พิเศษที่รับซื้อ-จองสลากกินแบ่งรัฐบาลล่วงหน้าได้สะดวก ให้ผู้มีสิทธิซื้อ-จองสลาก ประหยัดเวลาไม่ต้องไปต่อคิวที่ตู้เอทีเอ็มอีกต่อไป และฟีเจอร์ Money Connect by Krungthai บริการรับจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ เพิ่มโอกาสในการลงทุน ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่าน กรุงไทย NEXT อีกทั้งฟีเจอร์ที่เหนือกว่าของ “กรุงไทย NEXT” ที่สามารถซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด พร้อมรับใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท โดยข้อมูลจะถูกส่งไปที่กรมสรรพกรอัตโนมัติ
สำหรับกลยุทธ์การสื่อสารทางการตลาดนั้น ธนาคารกรุงไทยมีแผนการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในวงกว้าง ผ่านกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง โดยการอาศัยกลุ่มลูกค้าของกรุงไทยที่มีอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในกรุงเทพมหานคร กลุ่มหัวเมืองใหญ่และฐานลูกค้าในต่างจังหวัด ผ่านกิจกรรมสื่อสารการตลาดที่ครบวงจร ตั้งแต่การเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” เป็นตัวแทนแบรนด์ สะท้อนภาพลักษณ์ลูกค้าและผู้ใช้บริการยุคดิจิทัล สร้างการรับรู้ในวงกว้างผ่านสื่อโฆษณาโทรทัศน์ สื่อเอาท์ออฟโฮม และออนไลน์ กระตุ้นการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยกิจกรรมออนกราวด์และโรดโชว์ทั่วประเทศ พบปะประชาชนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นการใช้งานแอพฯ ในกลุ่มลูกค้าทุกพื้นที่ในต่างจังหวัด