บลจ.ธนชาต ออกกองทุน SET50 แบบไม่ปันผล ขายถึง 22 พ.ค.นี้

บลจ.ธนชาต ออกกองทุน SET50 แบบไม่ปันผล ขายถึง 22 พ.ค.นี้


นายวรินทร ขาวละออถ์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายการตลาดตัวแทนจำหน่าย บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า บริษัทจะเสนอขายกองทุนเปิดธนชาต SET50 สะสมมูลค่า (T-SET50Acc) กองทุนรวมดัชนี SET50 แบบไม่จ่ายปันผล ระหว่างวันที่ 16-22 พฤษภาคม โดยมองทิศทางตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ค่อนข้างซึมลงชัดเจน ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศที่ค่อนข้างได้รับความกดดันจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ทั้งนี้มองว่าช่วงนี้สามารถเริ่มทยอยเข้าสะสมในหุ้นไทยได้ เนื่องจากปัจจุบัน SET Index อยู่ที่ 1,630 จุด ใกล้เคียงกับแนวรับสำคัญที่คาดไว้คือ 1,600 – 1,620 จุด และปัจจัยจากต่างประเทศมีผลกระทบกับหุ้นไทยค่อนข้างน้อย ในทางหนึ่ง คือ ไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง และตั้งแต่ต้นปีตลาดไทยเองก็ปรับตัวขึ้นมาไม่มากเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ทำให้ตลาดไทยซึมลงเล็กน้อยเท่านั้น

ส่วนสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ที่ประกาศใช้มาตรการด้านภาษีตอบโต้ระหว่างกัน คาดว่าจะยืดเยื้อและเป็นปัจจัยกดดันตลาดต่างประเทศต่อไปอีกสักระยะ ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ผลตอบแทนตลาดต่างประเทศปรับขึ้นมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นเมื่อมีปัจจัยเรื่องนี้มากระทบจึงทำให้ตลาดต่างประเทศปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง

นอกจากนั้น บริษัทมองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไทยส่งสัญญาณชะลอตัว ทำให้เชื่อว่าเมื่อได้รัฐบาลใหม่ รัฐบาลจำเป็นจะต้องออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่อย่างแน่นอน และปัจจัยที่ตลาดรับรู้ไปแล้ว อย่างเรื่อง MSCI นั้น ก็คาดว่าจะมีเงินเข้ามาซื้อหุ้นไทยจากการปรับน้ำหนักเพิ่มของดัชนี MSCI เป็นจำนวน 8 หมื่นล้านบาท ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน

ทั้งนี้ บลจ.ธนชาต ได้มองกรอบของหุ้นไทยอยู่ที่ 1,580-1,740 จุด และในกรณีที่สงครามการค้าเลวร้ายไปกว่านี้ก็คิดว่าไม่น่าหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,520 จุด

โดย ปัจจุบันบริษัทมีกองทุนดัชนี SET50 อยู่แล้ว 1 กองทุน คือ กองทุน T-SET50 ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ซึ่งจัดตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2555 และพบว่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้สนใจลงทุนกองทุนนี้อย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นกองทุนที่เหมาะกับผู้อยากลงทุนแบบล้อดัชนี คือต้องการผลตอบแทนใกล้เคียงตลาด เพราะเวลาที่ตลาดปรับตัวขึ้นแรงๆ กองทุนประเภทนี้จะทำผลงานได้ดีกว่ากองทุนประเภทอื่นๆ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่ากองทุนเดิมมีนโยบายจ่ายปันผล แต่บริษัทพบว่ามีผู้ลงทุนหลายราย ไม่อยากรับเงินระหว่างลงทุนต้องการให้ผลตอบแทนเติบโตสะสมมูลค่าไปเรื่อยๆ บริษัทจึงได้เปิดกองทุนใหม่ที่มีนโยบายเหมือนกองทุนเดิม เพียงแต่กองทุนนี้จะไม่จ่ายปันผล

Back to top button