บลจ.ทิสโก้ ขายกอง CHLINK8 เจาะลูกค้ารับความเสี่ยงจำกัด
บลจ.ทิสโก้ ขายกองทุน CHLINK8 เจาะกลุ่มลูกค้ารับความเสี่ยงจำกัด
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ ออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 8 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (TCHLINK8) กองทุนรวมผสมอายุโครงการ 3 ปี ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เพื่อรองรับนักลงทุนที่หาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน สร้างผลตอบแทนไม่จำกัดอิงดัชนีตลาดหุ้นจีน HSCEI พร้อมป้องกันความเสี่ยงตลาดขาลง เน้นรักษาเงินต้น เหมาะกับยุคดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน โดยจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ค. 62
สำหรับ TCHLINK8 มีนโยบายแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี เงินฝาก ตราสารทางการเงินทั้งในและ/หรือต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีที่ออกโดยบริษัทเอกชนที่มีการจัดอันดับเครดิตตั้งแต่ A- ขึ้นไปในสัดส่วนประมาณ 95% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ตั้งเป้าให้เงินส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 100% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนภายใน 3 ปี
ส่วนที่สองลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์อิงดัชนี HSCEI สะท้อนผลการดำเนินงานบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในสัดส่วนประมาณ 5% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแบบไม่จำกัดหากดัชนีหุ้นจีนปรับขึ้นจากนับจากวันเริ่มต้น โดยจะมีการประเมินผลตอบแทนทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุ 3 ปี
ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ ประเมินว่า หลังจากนี้อัตราดอกเบี้ยไทยจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้มีค่อนข้างน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจโดยภาพรวมไม่ได้เติบโตร้อนแรง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปกลับมามีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในปีนี้
ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงความผันผวนของตลาดหุ้นไม่ได้มากนัก และคำนึงถึงความคงอยู่ของเงินต้นเป็นสำคัญ พร้อมทั้งต้องการผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการฝากเงินหรือการลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว จึงได้เปิดตัวกองทุน TCHLINK8 ดังกล่าวเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุน
“กองทุนนี้มีความโดดเด่นตรงที่กองทุนจะแบ่งเงิน 95% ไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี ซึ่งกองทุนตั้งเป้าว่าเมื่อครบ 3 ปี เงินส่วนนี้จะเพิ่มมาอยู่ที่ 100% เท่ากับว่านักลงทุนมีโอกาสได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ลงทุนไว้ พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนดีขึ้น เพราะอีก 5% จะไปลงทุนในวอร์แรนท์อิงดัชนีหุ้นจีน HSCEI หากดัชนีหุ้นจีนขึ้นแรงก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแบบไม่จำกัด แต่ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้ดัชนี HSCEI ปรับตัวลดลงตลอด 12 ไตรมาสนับจากวันที่เริ่มลงทุน นักลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์ แต่ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ลงทุนไว้ จากเงินต้นของการลงทุนรวมกับผลตอบแทนที่มาจากการลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน” นายสาห์รัชกล่าว
สำหรับการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีนั้น เบื้องต้นคาดว่ากองทุน TCHLINK8 จะเข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ของบมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) หุ้นกู้ของบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) หุ้นกู้ของบมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) หุ้นกู้ของบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) หุ้นกู้ของบมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) (FPT) และหุ้นกู้ของบมจ.ช. การช่าง (CK)
โดยกองทุน TCHLINK8 ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนผลตอบแทนของสัญญาวอร์แรนท์จึงทำให้กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากต่างประเทศ นอกจากนี้ กองทุนเน้นลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป ซึ่งตราสารดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามจำนวนหรือเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ ผลตอบแทนของกองทุนไม่ได้ผันแปรกับการเคลื่อนไหวของดัชนี Hang Seng China Enterprises โดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับอัตราการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวของดัชนีดังกล่าวที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขในหนังสือชี้ชวนเท่านั้น