BBLAM แนะนำกองทุน B-INCOME เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน
BBLAM แนะนำกองทุน B-INCOME เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บลจ.บัวหลวง (BBLAM) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำต่อเนื่อง จากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา เพิ่งมีมติเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% หรือจากเดิม 1.25% มาอยู่ที่ 1% ต่อปี
นอกจากนี้ สถานการณ์แวดล้อมในการลงทุนก็มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งสถานการณ์เศรษฐกิจโลก การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นักลงทุนจึงควรให้ความสำคัญกับการกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศให้มากขึ้น
ทั้งนี้ หากนักลงทุนเคยลงทุนผ่านตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว อาจจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนลดลงไปอีก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ดังนั้น หากนักลงทุนมองหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ก็อาจยอมรับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้วยการขยายโอกาสในการลงทุนผ่านกองทุนผสม ซึ่งกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทำให้นักลงทุนไม่ต้องเสียเวลาในการกระจายลงทุนเอง
โดยกองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในเวลานี้ เนื่องจากเป็นกองทุนที่มีนโยบายกระจายการลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพดีหลากหลายประเภท ที่สามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอ เน้นโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินเฟ้อ เพื่อรักษาอำนาจการซื้อของผู้ลงทุน โดยลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในหลักทรัพย์ ได้แก่ ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวม เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก มีสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)
“ในอีกด้านของความไม่แน่นอน ก็คือ โอกาส ดังนั้น เราจึงควรลงทุนอย่างต่อเนื่อง (Staying invested) แม้ในยามที่ผันผวน แต่ขณะเดียวกันก็ควรปรับพอร์ตลงทุนให้กระจายตัวในสินทรัพย์หลากหลายประเภท กองทุน B-INCOME คือ หนึ่งในคำตอบในการหาโอกาส และเตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์”นายวศิน กล่าว
กองทุน B-INCOME จัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 จากข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 กองทุนนี้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9,977.97 ล้านบาท