กสิกรไทยและกรุงไทยร่วมขายหุ้นกู้“ช.การช่าง”เปิดจอง 4-6 สิงหาคมนี้
กสิกรไทยและกรุงไทยร่วมขายหุ้นกู้ ช.การช่าง ครั้งที่ 2/2558 มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท อายุ 3 ปี ดอกเบี้ย 2.52% อายุ 4 ปี ดอกเบี้ย 2.85% และอายุ 7 ปี ดอกเบี้ย 3.98% อันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A- จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองขั้นต่ำ 100,000 บาท 4-6 สิงหาคมนี้ที่ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 2/2558 มูลค่ารวมไม่เกิน 4,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
โดยหุ้นกู้อายุ 3 ปี มูลค่าเสนอขายไม่เกิน 1,000 ล้านบาทอัตราดอกเบี้ย 2.52% และหุ้นกู้อายุ 4 ปี มูลค่าไม่เกิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.85% เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่และหุ้นกู้ชุดอายุ 7 ปี ซึ่งบริษัทมีสิทธิไถ่ถอนก่อนกำหนดภายหลังครบ 2 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้มูลค่าไม่เกิน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.98% เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน?ผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจสามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท?ระหว่างวันที่ 4-6 สิงหาคมนี้ที่ธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
ทั้งนี้ หุ้นกู้ของบริษัท ช.การช่าง ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ จากบริษัททริสเรทติ้งจำกัดที่ระดับ A-/Stable สะท้อนถึงผลประกอบการที่ดีและมีความยืดหยุ่นทางการเงินสูง รวมทั้งผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยบริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและชำระคืนเงินกู้ของบริษัท ตลอดจนเพื่อรองรับการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงคาดว่าหุ้นกู้ครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเหมือนที่ผ่านมา โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่ K-Contact Center 02-888-8888 หรือ KTB Call Center 02-111-1111
บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศมีผลการดำเนินงานด้านรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มานานกว่า 40 ปี มีการขยายขอบเขตการทำธุรกิจ และได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดำเนินการงานส่วนใหญ่เป็นโครงการต่างๆ ของภาครัฐบาลและโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศ