MFC ส่ง “SSF- SSFX” ลงทุนหุ้นไทย-กองทุนผสม
MFC ส่ง “SSF- SSFX” ลงทุนหุ้นไทย-กองทุนผสม เสนอขาย 1-15 เม.ย.นี้
นายสดาวุธ เตชะอุบล รักษาการกรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดตัว 2 กองทุน SSF เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่สนใจออมเงินลงทุนในระยะยาว และยังสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ได้แก่
1.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี หุ้นไทย เพื่อการออม หรือ MFC Thai Equity Super Savings Fund (MTQS) เป็นกองทุนรวมตราสารทุน ลงทุนในตราทุน และ/หรือหน่วยลงทุนโดยมี net exposure ในตราสาร โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุนนี้จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (MTQ-SSFX) และชนิดเพื่อการออม (MTQ-SSF)
2.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไทยเฟล็กซิเบิล เพื่อการออม หรือ MFC Thai Flexible Super Savings Fund (MTFS) เป็นกองทุนรวมผสม ลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หน่วย infra หน่วย property REITs กองทุนรวมอีทีเอฟ เงินฝาก และ อื่นๆ กองทุนนี้จะมีให้เลือก 2 รูปแบบเช่นกัน ได้แก่ ชนิดเพื่อการออมพิเศษ (MTF-SSFX) และชนิดเพื่อการออม (MTF-SSF)
โดยทั้งสองกองทุน MTQS และ MTFS ลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาด SET และหรือตลาด MAI โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV และอาจลงทุนในกองทุนรวมภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการ ไม่เกิน 25% ของ NAV โดยจะไม่ลงทุนใน Derivatives และ Structured Note ทั้งนี้มีนโยบายจ่ายปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) 1-15 เม.ย. 63
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ต้องถือครองหน่วยลงทุนกองทุน SSF และ SSFX เป็นระยะเวลา 10 ปี โดยนับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน สำหรับการลงทุนในกองทุน SSFX สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนกองทุน SSF แบบปกติ) เริ่มซื้อหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2563 นี้ แตกต่างจากกองทุน SSF ที่สามารถซื้อหน่วยลงทุนได้ในปี 2563-2567 โดยกองทุน SSF สามารถหักลดหย่อนได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาท แต่เมื่อรวมกับวงเงินหักลดหย่อนรวมในกองทุนรวมเพื่อการเกษียณอื่นๆ แล้วสามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปีภาษี
สำหรับกองทุนเปิด SSF และ SSFX เหมาะสำหรับผู้สนใจลงทุนในระยะยาว มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่เริ่มต้นวัยทำงานและประชาชนทั่วไปที่ต้องการเริ่มสะสมเงินเพื่อความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และต้องการลดหย่อนภาษี โดยสามารถเลือกลงทุนในนโยบายการลงทุนต่าง ๆ ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ตนยอมรับได้ ผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำได้เพียง 1,000 บาท โดยสามารถซื้อและขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ