TMBAM เปิดขาย “TMB-ES-CHILL” เน้นลงทุนธุรกิจสันทนาการ-บันเทิง
TMBAM เปิดกองทุน “TMB-ES-CHILL” เน้นลงทุนธุรกิจสันทนาการ-บันเทิง รับโอกาสเปิดเมืองทั่วโลก เสนอขาย 12-16 ก.ค.นี้
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย (TMBAM Eastspring) และบลจ.ธนชาต (Thanachart Fund Eastspring) กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวกองทุน TMB Eastspring Dynamic Leisure and Entertainment (TMB-ES-CHILL) ซึ่งเปิดขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 12-16 กรกฎาคม 2564
โดย TMBAM Eastspring เชื่อว่าการลงทุนในหุ้นรับโอกาสการเปิดเมืองทั่วโลกจะมีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด จึงเปิดขายกองทุน TMB Eastspring Dynamic Leisure and Entertainment หรือ TMB-ES-CHILL โดยเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Invesco Dynamic Leisure and Entertainment ETF บริหารโดย Invesco Asset Management ซึ่งเป็นกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว โดยกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสันทนาการและบันเทิง และมีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active โดยไม่ยึดติดกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้ทันต่อสถาณการณ์ โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Dynamic Leisure and Entertainment Intellidex Index
พร้อมให้ความเห็นว่า ในตอนนี้นับเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายในการใช้ชีวิต เพราะวิกฤตยังคงรายล้อมรอบตัวเรา แต่หากมองให้กว้างขึ้น ไกลขึ้น เราจะพบว่าโอกาสยังคงมีอยู่ไม่ได้จางหายไปไหน โดยเฉพาะโอกาสในด้านการลงทุน ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าต่อจากนี้โลกของเราจะฟื้นตัวได้ไม่เท่ากัน การฟื้นตัวในฟากฝั่งหนึ่งอาจยังคงต้องชะลอตัวออกไป แต่กับอีกฟากฝั่งหนึ่งโดยเฉพาะโลกในฟากฝั่งอเมริกาและประเทศพัฒนาแล้วนั้น เราพบการฟื้นตัวที่ชัดเจนกว่ามาก
“กำแพงของประเทศนั้นไม่สามารถแบ่งผู้ลงทุนไทยและผู้ลงทุนต่างประเทศออกจากกันได้ เราทุกคนต่างเป็นพลเมืองของโลก (Global Citizen) ดังนั้น เราทุกคนจึงควรสร้างและออกแบบการลงทุนให้ครอบคลุมสินทรัพย์ทั่วโลก (Global Portfolio) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีได้เท่าทันผู้ลงทุนทั่วโลก ซึ่งนับเป็น Global Opportunities นั่นเอง” นายอดิศรกล่าว ในงานสัมมนาเสมือนจริง REOPENING THE WORLD, UNLOCKING OPPORTUNITIES โอกาสใหม่เมื่อโลกเปลี่ยน” นายอดิศร กล่าว
ทั้งนี้สถานการณ์ในปัจจุบันทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนโควิดไปแล้วกว่า 3.4 พันล้านโดส และ หากดูสัดส่วนต่อประชากรจะพบว่าหลายๆประเทศในกลุ่มพัฒนาแล้วมีการฉีดวัคซีนกันไปเกินกว่าครึ่ง อาทิเช่นอังกฤษและแคนาดาที่มีสัดส่วนการฉีดไปเกือบ 70% แล้ว เชื่อว่ายิ่งการได้ภูมิคุ้มกันหมู่จากวัคซีนได้มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งจะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศนั้นๆมากขึ้นตามไปด้วย เห็นภาพของการเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ไปเมื่อ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เห็นการรวมตัวกันเพื่อเชียร์ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป จึงเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศที่ภาพของการฟื้นตัวชัดเจน และเมื่อเจาะลึกลงไปในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวและเริ่มเปิดเมือง โอกาสเหล่านี้จึงทวีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น จึงแนะนำพอร์ตลงทุนของผู้ลงทุนในปัจจุบันให้ปรับเปลี่ยนการลงทุนแบบ Home Bias ให้ลองแบ่งสัดส่วนการลงทุนไปยังต่างประเทศเพิ่อโอกาสรับผลตอบแทนและลดความผันผวนให้กับพอร์ตลงทุน
ขณะที่สัดส่วนของพอร์ตลงทุนในส่วนการลงทุนต่างประเทศนั้น แนะนำให้มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นคุณภาพประเทศพัฒนาแล้ว เช่น กองทุนหุ้นคุณภาพหรือหุ้นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างกองทุน TMB-GQG, TMB-ES-GCG, T-ES-GCG, TMB-GCore เป็นกลุ่มกองทุนหลัก และค่อยเลือกการลงทุนในลักษณะภูมิภาคหรือประเทศที่มีศักยภาพ เช่นสหรัฐอเมริกาหรือจีนต่อไปอย่างกองทุน TMBUSBLUECHIP ที่เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ
สำหรับผู้ที่ยังรับความเสี่ยงได้ไม่สูงมาก อาจปรับพอร์ตมาลงทุนกลุ่มกองทุนตราสารหนี้โลกอย่าง TMB-ES-GSBOND หรือ T-ES-GSBOND ได้ นอกจากนั้นหากผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น อาจทยอยปรับบางส่วน ประมาณ 15-20% มาลงทุนในกองทุนที่มีโอกาสสูงที่จะได้รับผลจากการฟื้นตัวในปัจจุบันโดยอาจเป็น T-PREMIUM BRAND, TMBGINFRA หรือ TMB-ES-CHILL ที่เรากำลังเปิดขายอยู่ในตอนนี้ก็ได้