“บลจ.กรุงศรี” เปิดตัว “KFGPE-UI” ลงทุนเริ่มต้น 1 ลบ. ดีเดย์ขายถึง 14 มี.ค.65

บลจ.กรุงศรี เปิดตัว “กองทุน KFGPE-UI” เปิดโอกาสให้นลท.รายใหญ่พิเศษที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ ได้ร่วมลงทุนใน Private Equity ไปพร้อมกับนลท.สถาบัน เริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท เสนอขายตั้งแต่วันนี้-14 มี.ค. 65


นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด หรือ บลจ.กรุงศรี  เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลไพรเวทอิควิตี้ – ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย KFGPE-UI สำหรับนักลงทุนรายใหญ่ที่มองหาการลงทุนทางเลือกเพื่อศักยภาพการเติบโตจากการเข้าถึงการลงทุนใน Private Equity ชั้นนำ ที่มีการกระจายการลงทุนหลากหลายธุรกิจและหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก

ทั้งนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการร่วมลงทุนและเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจเหล่านี้ ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่มีศักยภาพเติบโตที่ดี ต้องการระดมทุนเพื่อเตรียมขยายกิจการ หรือรองรับสินค้าและบริการที่กำลังเติบโต ซึ่งในอนาคตบริษัทเหล่านี้มีโอกาสจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือขายให้ผู้ถือหุ้นอื่น จึงถือเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว นอกจากนี้ Private Equity ยังมีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่นในระดับต่ำ จึงช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอีกด้วย”

โดยกองทุน KFGPE-UI ลงทุนผ่านกองทุนหลัก Schroder GAIA II Global Private Equity Fund ซึ่งบริหารโดย Schroders ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การลงทุนใน Private Equity มายาวนานกว่า 25 ปี  กองทุนหลักจะมีการลงทุนโดยตรงในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และครอบคลุมไปถึงการลงทุนผ่านกองทุน Private Equity ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง  โดยเน้นลงทุนใน 5 กลุ่มธุรกิจ คือ Healthcare เทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคยุคดิจิตอล การให้บริการภาคธุรกิจ และกลุ่มอุตสาหกรรม

อย่างไรก็ตาม กองทุนหลักใช้กลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลายและเน้นใช้กลยุทธ์ Small-Mid Buyout เพื่อสร้างโอกาสเติบโตไปกับธุรกิจที่มีกระแสเงินสดมั่นคง มีสินค้าและบริการซึ่งเป็นที่ยอมรับ  ซึ่งกลยุทธ์ Buyout ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในสหรัฐและยุโรป และใช้ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ Venture capital ที่เข้าไปลงทุนในบริษัทที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งกิจการเพื่อโอกาสในการสร้างการเติบโต และใช้กลยุทธ์ Growth capital ที่เข้าไปลงทุนในบริษัทที่อยู่ในช่วงเติบโตและมีความต้องการเงินลงทุนเพื่อขยายกิจการ

ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในเอเชีย โดยเป็นการลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตจากโครงสร้างประชากร รวมถึงธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ นอกจากนี้กองทุนหลักยังมีการผสมผสานปัจจัยด้าน ESG เข้ามาในกระบวนการลงทุนอีกด้วย

ขณะที่อีกหนึ่งจุดเด่นของกองทุน KFGPE-UI คือการปลดล็อคข้อจำกัดด้านสภาพคล่องโดยไม่มีกำหนดด้านระยะเวลาถือครอง ซึ่งต่างจาก Private Equity แบบดั้งเดิม และหลังจากช่วง IPO แล้ว จะเปิดให้สามารถซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มได้เป็นรายเดือน และขายคืนได้เป็นรายไตรมาส โดยกองทุนหลักมีเป้าหมายถือครองเงินสดประมาณ 10-20% เพื่อรองรับสภาพคล่องการซื้อขายและสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง

ตัวอย่าง ธุรกิจที่กองทุนหลักลงทุน เช่น POP MART ซึ่งเป็นบริษัทผลิต Art Toy อันดับ 1 ในจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นบริษัทชั้นนำในเยอรมันที่ให้บริการเกี่ยวกับ Digital transformation โดยเน้นให้บริการกับภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ ได้แก่ Digital communication, IT Services และ Hosting  และ Archimed เป็นนักลงทุนด้าน Healthcare ในยุโรปที่เน้นลงทุนในธุรกิจด้านบริการทางการแพทย์ การตรวจวินิจฉัยโรค อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ และสุขภาพของผู้บริโภค  เป็นต้น” (ที่มา : Schroders Capital ปี 2565)

โดยถือเป็นทางเลือกที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนรายใหญ่พิเศษที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของ กลต.ได้ร่วมลงทุนใน Private Equity ไปพร้อมกับนักลงทุนสถาบัน เงินลงทุนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท” นางสุภาพร กล่าว

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 เว็บไซต์ www.krungsriasset.com  หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

ด้านผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า  เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน   กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน จึงมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

สำหรับกองทุนรวมสำหรับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษเท่านั้น  กองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อนผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุนกองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น

นโยบายการลงทุน

ลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Schroder GAIA II Global Private Equity Fund (กองทุนหลัก)โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ≥ 80% ของ NAV

ระดับความเสี่ยง 8+ เสี่ยงสูงอย่างมีนัยสำคัญ | ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (โดยปกติกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย 80% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)

Back to top button