SCBAM คลอดกองทุนธีม ESG ลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น เปิดขาย 18-25 เม.ย.66

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดตัวกองทุน Structured fund ใหม่ ธีม ESG ผ่านกองทุน SCBLINK2YA ลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนแบบไม่จำกัดกับสัญญาออปชั่นอ้างอิงดัชนี S&P ESG Global Macro เสนอขายครั้งแรก 18-25 เม.ย. นี้


นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดและร่วมมือผลักดันแนวทางการสร้างความยั่งยืนด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม (Environmental) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Social) และการบริหารแบบธรรมมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ผ่านภาคธุรกิจมากขึ้น ทำให้ ESG มีบทบาทต่อภาคธุรกิจที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างมาก จนกลายเป็นเมกะเทรนด์ของการลงทุนที่นักลงทุนใช้ประกอบการตัดสินใจ และมองว่า บริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับ ESG จะช่วยยกระดับการบริหารความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว ทำให้ธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน

โดยปัจจุบัน มีการจัดทำดัชนีวัดด้านความยั่งยืน (Sustainable index) ขึ้นมาเพื่อเป็นเกณฑ์ให้กับธุรกิจ โดยหนึ่งในนั้นคือ ดัชนี S&P ESG Global Macro ดัชนีที่ผสมผสานการลงทุนของสินทรัพย์หลากหลายประเภท ที่จัดสรรน้ำหนักการลงทุนของดัชนีตามทิศทางตลาด ปรับสมดุล และสัดส่วนการลงทุนตามกลยุทธ์ย่อย ซึ่งประกอบด้วยดัชนีพันธบัตรรัฐบาล และดัชนีหุ้น ESG ในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ทำให้สามารถกระจายการลงทุน และรองรับโอกาสการเติบโตของตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้วได้อย่างดี รวมถึงมีมาตรการควบคุมความเสี่ยงรายวัน เพื่อรักษาความผันผวนให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิน 5% บริษัทฯ จึงมองว่ามีโอกาสที่ดัชนีนี้จะสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับนักลงทุนได้ในทุกสภาวะตลาด

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Performance-Linked Complex Return 2YA ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ กองทุน SCBLINK2YA กองทุน Complex Fund อายุ 2 ปี ที่เป็นการลงทุนกับธุรกิจที่เน้นความยั่งยืนเพื่อโอกาสนำมาซึ่งผลตอบแทนที่มากขึ้น โดยกองทุนจะมีนโยบายการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ (1) ลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วนร้อยละ 97.50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน (NAV) ลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น จากการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ของอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝากต่างประเทศทั้งจำนวน ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินลงทุนคืนพร้อมโอกาสรับผลตอบแทน/ดอกเบี้ยคงที่ระหว่างทางที่ร้อยละ 0.5 ในปีที่ 1 และปีที่ 2

สำหรับส่วนที่ (2) ลงทุนในสัญญาออปชั่นอีกประมาณร้อยละ 2.50 ที่จ่ายผลตอบแทนส่วนเพิ่มโดยอ้างอิงกับดัชนี S&P ESG Global Macro แบบ Performance Link และปรับสัดส่วนการลงทุนตามทิศทางตลาดด้วยวิธี rule-based จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ไม่จำกัด หากดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ณ วันพิจารณาเมื่อเทียบกับราคาสินทรัพย์ ณ วันเริ่มต้นสัญญา โดยจะมีตัวคูณร่วม (Participation Rate) อยู่ที่ร้อยละ 50 โดยจะเปิดขายหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2566 เริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท

Back to top button