KTAM แนะนำ 4 กองทุน “ลดหย่อนภาษี” มองเทรนด์เติบโตระยะยาว

KTAM เห็นโอกาสจากการลงทุนระยะยาวภายใต้สถานการณ์ตลาดการลงทุนทั่วโลกที่ยังคงมีความผันผวนจากหลาย ๆ ปัจจัย แนะนำ 4 กองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี  KT-LUXURY-SSF, KT-VIETNAM-SSF, KT-CHINA RMF และ KT-HEALTHC RMF


นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว แต่ภายใต้สถานการณ์ตลาดการลงทุนทั่วโลกที่ยังคงมีความผันผวนจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น อัตราเงินเฟ้อ ท่าทีการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางในบางประเทศ หรือสงครามระหว่างประเทศ เป็นต้น

ดังนั้นการเลือกลงทุนในตลาดหรือสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยมองว่า ตลาดที่สามารถสร้างโอกาสจากการลงทุนในระยะยาว ได้แก่ Thematic Funds ในกลุ่ม Premium Brands ที่ได้ปัจจัยหนุนจากการที่ผู้บริโภคระดับบนมีกำลังซื้อสูงและไม่ค่อยถูกกระทบในวัฏจักรขาลงท่ามกลางสภาวะสังคมสองขั้ว (Polarization)

ทั้งยังได้รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศของจีนอีกด้วย และกลุ่มเฮลท์แคร์ จากการตอบรับกระแสการก้าวสู่สังคมสูงวัยของโลก ทั้งเรื่องของการดูแลสุขภาพและการรักษาพยาบาล ทำให้อุตสาหกรรมด้านนี้ยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

นอกจากนี้ ตลาดเอเชียอย่างจีนหรือเวียดนาม ก็มีความน่าสนใจจากการที่ตลาดหุ้นจีนใหญ่อันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ แต่มีน้ำหนักในดัชนีโลกน้อยไป ในอนาคตสัดส่วนควรสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับปัจจุบัน และน่าจะกระตุ้นให้นักลงทุนทั่วโลกต้องการซื้อหุ้นจีนเพิ่มขึ้นอีกในระยะยาว ในส่วนของเวียดนามนั้นมีศักยภาพเติบโตโดดเด่นระดับแถวหน้าของภูมิภาคและโลก ด้วยความได้เปรียบด้านโครงสร้างประชากรวัยทำงาน และค่าแรงยังไม่สูง จึงทำให้ต้นทุนการผลิตถูก ประกอบกับรัฐบาลเดินหน้าปฏิรูปและพัฒนาหลายด้าน

สำหรับกองทุนแนะนำ ประกอบด้วย กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทม Luxury (ชนิดเพื่อการออม) (KT-LUXURY-SSF) เป็นกองทุนระดับความเสี่ยง 6 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน PICTET – PREMIUM BRANDS (กองทุนหลัก) โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าและบริการระดับบนเป็นหลัก (High-end Products and Services) มีนโยบายการบริหารแบบเชิงรุก สามารถลงทุนได้โดยไม่มีข้อจำกัด

โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนแบรนด์จาก 5 เกณฑ์ ได้แก่ 1) ประสบการณ์และบริการ 2) ความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์  3)  ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาของผู้บริโภค 4) ความโดดเด่นด้านการบริหารจัดการ และ 5) การนำเทคโนโลยีมาใช้ (ที่มา: Pictet ข้อมูล ณ พ.ค. 2566)

รวมถึงกองทุนเปิดเคแทม เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-VIETNAM-SSF) เป็นกองทุนระดับความเสี่ยง 6 มีนโยบายการลงทุนแบบเชิงรุกเพื่อมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศเวียดนาม ผ่านการลงทุนในตราสารทุน หน่วย CIS กองทุน ETF ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ประเทศเวียดนามและต่างประเทศ เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

โดยกองทุนมีกระบวนการลงทุนแบบผสานรูปแบบการลงทุนทั้ง Top-down และ Bottom-up Approach ด้วยการคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง ทั้งยังมีการประเมินมูลค่าหุ้นตามปัจจัยพื้นฐานโดยวิธีการประเมินในรูปแบบต่าง ๆ สำหรับธีมลงทุนปัจจุบันประกอบด้วย Domestic Consumption, Urbanization, Banking และ Industrialization (ที่มา: KTAM ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 66)

กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเคแทมไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-CHINA RMF) เป็นกองทุนระดับความเสี่ยง 6 เน้นลงทุนในหน่วยของ BGF China Fund (กองทุนหลัก) มุ่งการเติบโตในระยะยาว โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ในหรือเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีน ทั้งนี้ กองทุนหลักมีสไตล์ยืดหยุ่น สามารถปรับจูนสมดุลระหว่างความสามารถสร้างกำไร การเติบโต มูลค่า และขนาดของหุ้น พร้อมทั้งแสวงหาโอกาสลงทุนจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและปฏิรูป ทั้งในกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ และเก่าของจีน

และกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ เฮลธ์แคร์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-HEALTHC RMF) เป็นกองทุนระดับความเสี่ยง 7 เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Janus Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นการลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลก ที่มีธุรกิจด้านการรักษาและพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต (Life Sciences)

นอกจากนี้ ราคาหุ้นกลุ่มนี้ยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับโอกาสโตระดับ Megatrend เนื่องจากกลุ่ม Health Care ค่อนข้างทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจ มีปัจจัยขับเคลื่อนระยะยาว อาทิ สังคมสูงอายุ การขยายตัวของคนชั้นกลางในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงเทคโนโลยีที่สนับสนุนการคิดค้นวิธีรักษาใหม่ๆ เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือธนาคารกรุงไทยและผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th สนใจเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่น KTAM Smart Trade ได้ที่ คลิกที่นี่

ปัจจัยความเสี่ยงของกองทุนที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลกัทรัพย์ ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน ความเสี่ยงที่เกิดจากการย้ายการลงทุนไปกองทุนอื่น ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ความเสี่ยงที่เกิดจากการลงทุนในอุตสาหกรรมหรือเฉพาะกลุ่มธุรกิจ และความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/ หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF ก่อนตัดสินใจลงทุน / กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขกองทุน ทั้งนี้ หากลงทุนไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด อาจต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเสียเงินเพิ่ม / รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบการก่อนตัดสินใจลงทุน

Back to top button