SCBAM คัด 2 กองทุนเด่น มีปัจจัยบวกต่อเนื่อง
“บลจ.ไทยพาณิชย์” คัดกองทุนตัวท็อปธีมกลุ่มหุ้นเด่นจากปัจจัยหนุนหุ้นเติบโต รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อลงทุนผ่าน SCBAM FUND CLICK ระหว่าง 2-31 ส.ค.66
นางสาวศุภรัตน์ อารีย์วงศ์ Executive Director กลุ่มกลยุทธ์การตลาดและผลิตภัณฑ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBAM เปิดเผยว่า ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปโดยรวมปรับลดลงเร็วกว่าคาด ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มปรับลดลง ประกอบกับตลาดแรงงานยังมีความยืดหยุ่นสูงและทยอยฟื้นตัว จึงเป็นแรงเสริมให้เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่ยังสามารถขยายตัวต่อได้ ประกอบกับล่าสุด IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกปีนี้ เป็นโต 3% จากปีก่อน
รวมถึงรายงานตัวเลขผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ นำโดยกลุ่มหุ้น Big Tech ที่ประกาศงบออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาด ทำให้ตลาดหุ้นโดยรวมปรับตัวขึ้น แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศฝั่งเอเชีย ที่มีทุนการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงสวนทางกับตลาดโลกมาตั้งแต่ต้นปี 66 ด้วยปัจจัยจากการขยายฐานการผลิต และการไหลเข้าเงินลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น SCBAM จึงคัดเลือกกองทุนที่น่าสนใจตอบรับกระแสการเติบโตมาใน 2 กลุ่มหลัก คือ ดาวรุ่งกระแสดี และดาวเด่นตลาดเกิดใหม่ รวม 5 กองทุน มองเป็นจังหวะเข้าลงทุนสะสม พร้อมจัดแคมเปญฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อและสับเปลี่ยนเข้าให้กับผู้ที่สนใจลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ตลอดในเดือน ส.ค.นี้ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 2-31 ส.ค.66
สำหรับกองทุนแนะนำที่เป็นดาวรุ่งกระแสดี มีปัจจัยหนุนต่อเนื่อง ประกอบด้วย 2 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Electric Vehicles and Future Mobility หรือ SCBEV ลงทุนในกองทุนหลัก KraneShares Electric Vehicles & Future Mobility Index ETF ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และส่วนประกอบ รวมถึงเทคโนโลยีและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั่วโลก ซึ่งพร้อมเติบโตระยะยาวจากกระแส AI boom, Semiconductor ที่เริ่มเป็นวัฏจักรขาขึ้น
อีกทั้งนโยบายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ายังได้รับการผลักดันจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และอีกหนึ่งกองทุนแนะนำคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Travel and Leisure หรือ SCBTRAVEL ที่เน้นลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสันทนาการทั่วโลก ผ่านกองทุน ETF เช่น สายการบิน โรงแรม Booking platform ธุรกิจบันเทิงและสันทนาการ ที่พร้อมจะเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีจากการเปิดเมืองและฤดูกาลท่องเที่ยวที่เป็น High Season ของสหรัฐฯ และยุโรป
ด้านกองทุนแนะนำดาวเด่นตลาดเกิดใหม่ กับโอกาสลงทุนเพื่อรอรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว จากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้ามาขยายฐานการผลิต ประกอบด้วย 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นตลาดเกิดใหม่ หรือ SCBEMEQ ลงทุนในกองทุนหลัก Fidelity Funds – Sustainable Emerging Markets Equity Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
โดยมีสำนักงานใหญ่ หรือมีการประกอบธุรกิจหลักในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Markets) เช่น จีน อินเดีย ไต้หวัน เกาหลี บราซิล แอฟริกาใต้ เม็กซิโก โปแลนด์ อินโดนีเซีย ไทย เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นเกาหลี หรือ SCBKEQTG ลงทุนในกองทุนหลัก iShares MSCI South Korea ETF เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี MSCI Korea 25/50 โดยเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทชั้นนำขนาดใหญ่และขนาดกลางมีชื่อเสียงในหลากหลายอุตสาหกรรม และเป็นแถวหน้าด้านเทคโนโลยี เช่น Samsung, SK Hynix และ Hyundai เป็นต้น ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการผลิต Semiconductor ที่เริ่มเป็นวัฏจักรขาขึ้น
ทั้งนี้จึงมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้ และสุดท้ายกับกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย หรือ SCBINDIA ลงทุนในกองทุนหลัก iShares India 50 ETF เพื่อโอกาสได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Nifty 50 โดยเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่จำนวน 50 บริษัท ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย โดยมองว่าเศรษฐกิจอินเดียยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง จากการปรับเพิ่มการคาดการณ์ GDP ของอินเดียในปี 67 อีก 0.50% สู่ระดับ 5.5% จากปัจจัยการส่งออกที่แข็งแกร่ง