![](https://media.kaohoon.com/wp-content/uploads/2024/04/TISCO_2022-04-03.jpg)
“ทิสโก้” เดิมพันหุ้น AI ส่งทริกเกอร์ฯ ใหม่ กำไร 5% ใน 5 เดือน
บลจ.ทิสโก้ เดินหน้าปล่อยกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ชุดใหม่ เน้นหุ้น AI ครบวงจร ตั้งเป้าผลตอบแทน 5% ใน 5 เดือน ดีเดย์ 5-7 ก.พ. 68 หวังเก็บเกี่ยวโอกาสจากการปรับฐานของหุ้น AI ทั่วโลก ครอบคลุมทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้านตลาดหุ้นไทยยังคงเป้าหมายที่ 1,530 จุด ยังต้องจับตาความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจกระทบเศรษฐกิจและการลงทุน
นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี AI ชุดใหม่ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าหมายที่ระดับ 5% ภายใน 5 เดือน เตรียมเปิดขายระหว่างวันที่ 5-7 ก.พ. 2568 นี้ กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนในกลุ่มหุ้น AI ทั่วโลก แบบกระจายตัวทั้ง AI ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ประกอบกับหุ้น AI ได้ปรับฐานลงมาค่อนข้างมาก มองเป็นจังหวะเหมาะในการออกกองทุนดังกล่าว
สำหรับทริกเกอร์ชุดใหม่นี้ เน้นลงทุนในหุ้น AI ที่มีศักยภาพในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ขณะที่กลุ่มหุ้น 7 นางฟ้าสหรัฐฯ ยังคงมีอยู่ในพอร์ตกองทุนนี้ แต่สัดส่วนการลงทุนเน้นตามความเสี่ยงมากน้อยจากผลกระทบ DeepSeek ที่เข้ามา ซึ่ง AI กลุ่มต้นน้ำ คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการผลิตฮาร์ดแวร์ เช่น ชิปประมวลผลและเซมิคอนดักเตอร์ที่จำเป็นต่อการทำงานของ AI โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง Nvidia, AMD และ TSMC เป็นตัวแทนสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบจากกระแส DeepSeek พอสมควร
อย่างไรก็ตาม จากกระแส DeepSeek ทำให้เกิดการจุดประกายเกิดการรับมือมากขึ้น ทั้งนี้ยังคงมองเชิงบวกต่อหุ้น AI ด้วยโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้น้ำหนักเรื่องของการปลดล็อกธุรกิจต่าง ๆ เริ่มที่กลุ่มไฟแนนซ์สหรัฐฯ ซึ่งทิสโก้ได้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์กลุ่มไฟแนนซ์สหรัฐฯ ไปแล้ว โดยถึงเป้าหมายก่อนกำหนด ทำให้นโยบายถัดไปเข้าสู่กลุ่ม AI ด้วยจังหวะที่ราคาปรับลง จึงเป็นจังหวะดีในการออกทริกเกอร์นี้
นายสาห์รัช กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดหุ้นไทยยังคงมุมมองต่อดัชนีปีนี้ที่ระดับเดิม 1,530 จุด โดยรัฐบาลยังเป็นตัวหลักในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยและตลาดทุนไทย อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของตลาดหุ้นยังมีอยู่ โดยเฉพาะความเสี่ยงทางด้านการเมือง หากมีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองขึ้น นอกจากกระทบตลาดหุ้นไทยแล้ว จะกระทบภาพรวมของประเทศในด้านต่าง ๆ ด้วย กลยุทธ์ลงทุนสำหรับนักลงทุนที่ยังชอบหุ้นไทย เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic Consumption เป็นหลัก ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารแม้ผลประกอบการออกมาดี แต่ยังคงตั้งการ์ดสูง โดยเฉพาะโครงการคุณสู้ เราช่วย ยังไม่เห็นตัวเลขที่เข้าเงื่อนไขชัดเจนว่ามีมากน้อยแค่ไหน