
KSAM จับมือ JP Morgan เปิดทริกทำกำไรหุ้นสหรัฐฯ
KSAM ร่วมกับ JP Morgan Asset Management วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปี 68 คาดเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด แนะกองทุน KF-US-PLUS เด่น เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนเหนือชั้น รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจแข็งแกร่ง กำไร S&P 500 เติบโต และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ
นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับ JP Morgan Asset Management เพื่อให้มุมมองเกี่ยวกับภาวะตลาดและแนวโน้มการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าหุ้นสหรัฐฯ จะเป็นทรัพย์สินที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้
พร้อมแนะนำกองทุนเปิดกรุงศรียูเอสซีเล็คอิควิตี้พลัส (KF-US-PLUS) ที่มีนโยบายลงทุนใน JPMorgan Funds-US Select Equity Plus Fund (กองทุนหลัก) โดดเด่นด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ผสมผสานทั้งกลยุทธ์หลักและกลยุทธ์เสริมที่มีการ Long-Short ในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างของราคา ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า
นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (KSAM) กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีโอกาสเติบโตสูง แม้มีความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ในระยะสั้นที่เข้ามากระทบอยู่บ้าง แต่ด้วยนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจและการเติบโตของธุรกิจ ยังถือเป็นโอกาสที่ดีของการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ สำหรับนักลงทุนในระยะยาว ทั้งนี้การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงสนับสนุนจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ
1.เศรษฐกิจมหภาคแข็งแกร่ง โอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอยต่ำเพียง 15-20% ภาวะเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้น คาดมีผลกระทบเพียง 0.5-1.0% ในระยะสั้น แสดงถึงความมั่นคงในตลาด และโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวจากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นขาลง
2.กำไรของ S&P 500 คาดเติบโตที่ 13% ในปีนี้ โดยการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคธุรกิจและหุ้นในดัชนี S&P 500 จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี
3.นโยบายของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แม้มีการเจรจาต่อรองทางการค้าและขึ้นกำแพงภาษี ซึ่งส่งผลให้เกิดสงครามการค้าและความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจในประเทศ เช่น การย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐฯ ที่ช่วยลดต้นทุนการผลิต พร้อมทั้งนโยบายลดภาษีนิติบุคคล และการผ่อนคลายกฎระเบียบในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิของบริษัทใน S&P 500 เติบโตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บลจ.กรุงศรี มั่นใจจากปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดังกล่าว เป็นจังหวะที่ดีของการลงทุนในกองทุน KF-US-PLUS