KTAM ชี้ “เกมการค้าเดือด” นักลงทุนรับแรงกระแทก

KTAM ชี้ มาตรการภาษีใหม่สหรัฐฯ สร้างแรงสั่นสะเทือนต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน ไทยถูกเก็บภาษี 37% กระทบการส่งออกและ GDP นักลงทุนควรเตรียมรับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้น


ดร.สมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารประกาศใช้ทั้งมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) และมาตรการภาษีศุลกากรพื้นฐาน (Universal Tariff)

โดยจะมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานในอัตรา 10% จากทุกประเทศ และจะเก็บภาษีตอบโต้เพิ่มเติมกับบางประเทศ ซึ่งรวมถึงจีนที่ถูกเรียกเก็บ 34% (รวมของเดิม 20% เป็น 54%), อินเดีย 26%, เกาหลีใต้ 25%, ญี่ปุ่น 24% และสหภาพยุโรป (EU) 20% รวมถึงประเทศในอาเซียนอย่างเวียดนาม 46%, ไทย 37%, อินโดนีเซีย 32%, มาเลเซีย 24%, ฟิลิปปินส์ 17% และสิงคโปร์ 10%

สำหรับการขึ้นภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งต่อสหรัฐฯ และต่อประเทศอื่น ๆ ด้วย ขณะที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ประมาณ 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2567 คิดเป็น 18.29% ของการส่งออกทั้งหมด คิดเป็น 10.4% ของ GDP แต่ประเทศไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.6% ของ GDP ประเด็นที่ต้องติดตามต่อเนื่อง คือ

1.การบังคับใช้ภาษีที่ประกาศในครั้งนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขมาตรการต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง

2.ท่าทีของรัฐบาลนานาประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศใหญ่ ๆ เช่น กลุ่มประเทศ EU จีน หรืออื่น ๆ ซึ่งรวมถึงรัฐบาลไทยด้วย ว่าจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวด้วยการขึ้นภาษีตอบโต้สหรัฐฯ หรือจะเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน หรือจะนิ่งเฉยอย่างมีกลยุทธ์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว

3.แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของประเทศต่าง ๆ การขึ้น Tariff ซึ่งเป็นมาตรการที่สร้างผลเสียให้กับทุกฝ่าย (lose-lose) ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวต่ำลง อาจมีการลดดอกเบี้ยมากขึ้น หรือเร็วกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้เดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรองในช่วงถัดไป การตอบรับของตลาดหลังมีการประกาศภาษีต่าง ๆ เหล่านี้ค่อนข้างรุนแรงในช่วงแรก Dow Jones Futures ลดลงประมาณ 1,000 จุด (-2.5%), S&P500 Future -3.6%, Nasdaq Futures -4.5% แต่หลังจากนั้นก็ทยอยลดช่วงลบลง

โดยนักลงทุนยังคงรอคอยความคืบหน้าในประเด็นที่ต้องติดตามที่กล่าวข้างต้น ประเมินตลาดมีความผันผวนมากขึ้นในระยะสั้นจากแรงกระเพื่อมรอบใหม่นี้ แต่ก็มีมุมมองในเชิงบวกต่อความชัดเจนที่มากขึ้นของ Reciprocal Tariffs ว่าจะเก็บกับประเทศใดบ้างและในอัตราเท่าใด

Back to top button