บลจ.ไทยพาณิชย์ จ่อปันผล 8 กองทุนกำหนดจ่ายพร้อมกันวันที่ 24 พ.ย.59

นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ในไตรมาสที่ 3 ยังคงสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมจ่ายให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนรวมทั้งหมดจำนวน 8 กองทุน

ทั้งนี้ เป็นการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2559 สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม-30 กันยายน 2559 ประกอบด้วย กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2390 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้น 2.6004 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557)

สำหรับอีก 7 กองทุน แบ่งเป็นกองทุนอสังหาฯ ประเภทอาคารสำนักงาน 2 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ (POPF) ที่ลงทุนในอาคารสมัชชาวานิช 2 อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร์ และอาคารบางนา ทาวเวอร์ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.2437 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 5.6017 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 7 ก.ย. 2554) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แสนสิริ ไพร์มออฟฟิศ (SIRIP) ลงทุนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารสิริภิญโญ จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1450 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.4936 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 28 ส.ค.2557)

รวมทั้งกองทุนอสังหาฯ ประเภทคอมมิวนิตี้มอลล์ จำนวน 1 กองทุน คือ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์คริสตัล รีเทล โกรท (CRYSTAL) ที่ลงทุนในโครงการเดอะ คริสตัล (The Crystal) และโครงการคริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC) จะจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.1978 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 2.5287 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15  พ.ย. 2556) พร้อมด้วยกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงงานและคลังสินค้า มีจำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน อินดัสเทรียล โกรท (TGROWTH) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2290 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลไปแล้วทั้งสิ้นในอัตรา 2.4440 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 22 พ.ค.2557) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PPF) จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2000 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.8611 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 24 พ.ย.2557)

พร้อมทั้งกองทุนอสังหาฯ ประเภทโรงแรม มีจำนวน 2 กองทุน ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน -30 กันยายน 2559 ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เอราวัณ โฮเทล โกรท (ERWPF) ลงทุนในโรงแรมไอบิส ป่าตอง และโรงแรมไอบิส พัทยา จะจ่ายปันผลในอัตรา 0.0630 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 1.8791 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 15 พ.ย. 2556) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โรงแรมศรีพันวา (SPWPF) ที่ลงทุนในโครงการโรงแรมศรีพันวา จังหวัดภูเก็ต โดยจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.2084 บาทต่อหน่วย รวมจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 2.1507 บาทต่อหน่วย (นับตั้งแต่วันที่จ่ายปันผลครั้งแรก 19 ก.พ. 2557)