บลจ.ทหารไทยปลื้มTMBAGLT8สดใสถึงเป้าหมายเลิกโครงการ8%ใน5เดือน

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (TMBAM) เปิดเผยว่า ทิศทางกระแสเงินลงทุนโลกที่กลับมาให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชีย ขณะที่ปัจจัยแวดล้อมทั้งภายในภายนอกภูมิภาค2 ช่วยสนับสนุน จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเข้าไปลงทุนในหุ้นของภูมิภาคเอเชีย สะท้อนให้เห็นได้จากการที่ กองทุนเปิดทหารไทย Asian Growth Leaders Trigger 8 ที่บริษัทฯได้เปิด IPO ไปเมื่อปลายเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้าหมายเลิกโครงการ 8% ได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงประมาณ 5 เดือน พร้อมจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยและเลิกกองทุนได้ในภายในวันที่ 9 เมษายน 2558 นี้

ดร.สมจินต์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่ออกกองทุนนั้น ระดับราคาของหุ้นภูมิภาคเอเชีย (Valuation) ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาอื่นๆ ขณะที่พบว่ามีกระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองในประเทศของเรายังมีความเปราะบางสูง เราจึงได้เชิญชวนผู้ลงทุนให้มีมุมมองการลงทุนแบบ Global Investors แสวงหาโอกาสใหม่ๆของการลงทุนที่มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งการแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนยังต่างประเทศนั้นที่สุดแล้วจะช่วยลดการกระจุกตัวของพอร์ตการลงทุนและกระจายความเสี่ยงไปพร้อมๆกัน

ที่ผ่านมาความโดดเด่นของเอเชียยังเป็นผลจากแนวทางการปฏิรูปประเทศผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยภาครัฐ เช่น ด้านระบบคมนาคมขนส่ง ชลประทาน สื่อสารโทรคมนาคม ประกอบกับมาตรการปฏิรูปทางสังคม การต่อต้านคอรัปชั่นซึ่งได้มีการดำเนินการอย่างจริงจังในหลายประเทศ ได้ช่วยดึงดูดให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาค ขณะเดียวกันปัจจัยเสริมจากภายนอก อาทิเช่น การปรับลดของราคาน้ำมัน การฟื้นตัวของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญของเอเชีย ได้ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เศรษฐกิจของเอเชียเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ สำหรับประเทศที่Outperform ตลาด มีน้ำหนักช่วยส่งผลให้พอร์ตกองทุนของเราบรรลุเป้าหมาย อาทิเช่น จีน อินโดนีเซีย และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น

ในส่วนของกองทุนหลัก (Master Fund) คือ BGF Asian Growth Leaders Fund ซึ่งมีจุดเด่นคือ การบริหารงานแบบ Active โดย BlackRock , Inc. เองนั้น การที่ผู้จัดการกองทุนมีอิสระในการคัดเลือกหุ้นที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เอเชีย หรือมีธุรกิจในเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) จำนวนประมาณ 30-60 ตัว ไม่ยึดติดกับสัดส่วนการลงทุนตามดัชนี เน้นลงทุนในหุ้นโดยพิจารณาจากมูลค่า (valuation) เป็นหลัก โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางของบริษัทที่อยู่ในธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของเอเชียที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เช่น การเติบโตและความมั่งคั่งที่เพิ่มพูนขึ้นของกำลังซื้อในชนชั้นกลาง หรือบริษัทที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ก็นับเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของกองทุนของเราเช่นกัน